ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ? นักศึกษาวิศวกรรมเกษตร สจล.ชุมพร หายตัวปริศนาเกือบอาทิตย์ จนแม่ร่ำไห้เป็นห่วงหนัก ล่าสุดกลับมาแบบงงๆ พร้อมเล่าละเอียดไปพบกับสิ่งที่ตั้งใจก่อนกลับมา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (10 ธ.ค.) นางเพลินจิต ศรีรุ่ง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 6 ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.ปะทิว จ.ชุมพร หลังจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.62
ได้เข้าแจ้งความว่า ลูกชายชื่อ นายวศิน ศรีรุ่ง อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กต 4939 นครศรีธรรมราช หายออกไปจากหอพักเลขที่ 108 หมู่ 6 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จนถึงปัจจุบันนาน 5 วัน ยังไม่พบตัว
จากนั้น พ.ต.อ.ศุภเกียรติ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศุภกิจ พานิชนาชี สว.(สอบสวน) พ.ต.ท.ธวัชชัย ไชยวรรณ์ สว.สืบสวน สภ.ปะทิว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หอพักเพื่อหาข้อมูลอย่างละเอียดใช้ในการสืบสวนติดตามหาตัว นายวศิน
โดยพบว่าได้ขับรถจักรยานยนต์หายไปจากหอพักในช่วงเช้ามืดของวันที่ 6 พ.ย. ในชุดกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว คลุมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตแขนยาวสีครีม สวมรองเท้าแตะ จากการตรวจสอบภายในห้องพักเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสร้างติดกันหลายหลัง อยู่ห่างจากสถาบันฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร พบว่า นายวศิน ไม่ได้เอาเสื้อผ้าหรือสิ่งของเครื่องใช้ติดตัวไปด้วยแต่อย่างใด และโทรศัพท์มือถือก็ยังวางอยู่ในห้องพัก
นอกจากนั้น ภายในห้องพักเจ้าหน้าที่พบภาพวาดเกี่ยวกับวัดและข้อความที่นายวศิน เขียนไว้เกี่ยวกับการศึกษาธรรม เช่น “จงมองทุกข์อย่างทุกข์” “รู้จักโลกตามความจริง” และข้อความทางพุทธศาสนาเตือนสติตัวเองต่างๆ นานาอีกมากมายหลายข้อความ หลังเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากเพื่อนสนิท และนางเพลินจิตผู้เป็นแม่ของนายวศิน ได้กระจายกำลังออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ บนถนนเลียบชายทะเล และจากร้านค้าต่างๆ ในละแวกใกล้เคียง เพื่อใช้เป็นข้อมูลออกติดตามหาตัว
นางเพลินจิต ศรีรุ่ง อายุ 54 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า นายวศิน เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ไม่สูบบุหรี่ไม่ดื่มสุรา เป็นคนเก็บตัว ซึมเศร้า ชอบเข้าวัดฟังธรรมนั่งสมาธิ เป็นคนเรียนดีไม่เคยซ่อมหรือตกวิชาใด และเป็นลูกชายคนเดียวที่เรียนระดับปริญญาตรี ซึ่งจะจบการศึกษาในปีนี้แล้ว และกำลังจะสอบในเทอมแรกของปีสุดท้าย โดยตนเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช มีอาชีพทำสวนยางพารา
ก่อนลูกหายตัวไป 1 สัปดาห์ ได้มาเยี่ยมลูกชายที่หอพักลูกชายเริ่มมีอาการแปลกๆ ก่อนตนจะกลับบ้าน นายวศินได้ให้ตนนั่งลงบนเก้าอี้แล้วตักน้ำใส่ขันมาล้างเท้าตนเพื่อขอขมาเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเคยล่วงเกินตนทั้งๆ ที่ลูกตนคนนี้รักแม่มากไม่เคยทำอะไรให้เสียใจมาก่อน หลังเอาน้ำล้างเท้าตนแล้วได้ให้ตนเอาเท้าเหยียบศีรษะเพื่อเป็นการไถ่บาป หลังจากตนกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็จะโทร.หาลูกทุกวัน
นางเพลินจิต กล่าวต่อว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พ.ย.62 ตนได้โทรศัพท์หาลูกชายหลายสายก็ไม่ติด จึงโทร.หาเพื่อนสนิทของลูก ทราบว่า ไม่ได้ไปเรียนที่สถาบัน จึงให้ไปดูที่ห้องพักก็ใส่กุญแจ ตนจึงรีบเดินทางมาที่ จ.ชุมพร พร้อมกับไปแจ้งความคนหายที่ สภ.ปะทิว เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ กู้ภัย ออกระดมค้นหา จนถึงวันนี้นาน 5 วันแล้วก็ไม่พบตัว ซึ่งลูกชายตนมีเงินสดติดตัวอยู่ประมาณ 1 พันบาท ที่ตนเพิ่งจะให้ไว้เท่านั้น
ด้าน นายปฏิภัทร์ มณีพงศ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมเครื่องกล ชั้นปีที่ 4 เพื่อสนิทนายวศิน กล่าวว่า อาศัยอยู่ห้องพักอยู่ตรงข้ามกันจะไปมาหาสู่พูดคุยกันตลอด ซึ่งช่วงหลังนายวศิน มีพฤติกรรมค่อนข้างเก็บตัวเงียบ คล้ายคนเก็บกด ตนพยามยามพูดเป็นกำลังใจ และพาออกไปเที่ยวชมวิวตามสถานที่ต่างๆ
ส่วนเรื่องที่ว่าเพื่อนตนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับแฟนสาวก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเท่าที่รู้ผู้หญิงคนที่เขารู้จักพูดคุยกันช่วงฝึกงานก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ไม่ได้คุยกันแบบชู้สาว แต่ระยะหลังๆ เขาเริ่มเข้าวัดชอบฟังบทสวดมนต์และเขามักจะพูดว่าเขาอยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างที่เขาต้องการรู้
ขณะที่ น.ส.มัณฑนา บุญมั่น นักศึกษา ปี 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์การประมงและทรัพยากรทางน้ำ ในฐานะหัวหน้าชุดชมรมอาสากู้ชีพ สจล.วิทยาเขตชุมพร กล่าวว่า หลังจากทางชมรมฯ ได้รับแจ้งว่านายวศิน หายไปจากหอพัก ก็ได้หาข้อมูลส่วนตัวแล้วประกาศตามหาทางเพจทางสื่อออนไลน์ต่างๆ และตลอดทั้ง 6 วัน พวกเราได้ร่วมกับหน่วยกู้ภัยปะทิว ออกค้นหาตามป่า ตามวัดทุกแห่งในพื้นที่ อ.ปะทิว ที่คาดว่าจะไปนั่งวิปัสสนาหรือปฏิบัติธรรมก็ยังไม่เจอตัว และจะออกตามหาต่อไปจนกว่าจะพบตัวพี่เขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ขณะที่ชุดกู้ภัยพร้อมกับผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับ นางเพลินจิต แม่ของนายวศิน และกำลังจะเดินทางกลับ ปรากฏว่า นายวศิน ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้าหอพักพอดี ทำให้นางเพลินจิต ผู้เป็นแม่และเพื่อนๆ ถึงกับยืนตะลึง โดยเฉพาะผู้เป็นแม่เมื่อตั้งสติได้ถึงกับร่ำไห้ดีใจสุดชีวิตวิ่งไปหาแล้วโผกอดด้วยความดีใจ พร้อมกับสอบถามว่าลูกหายไปไหนมาแม่เป็นห่วงมาก
นายวศิน ได้บอกกับผู้เป็นแม่ ว่า ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากหอพักขึ้นไปที่เขาดินสอในพื้นที่ อ.ปะทิว จากนั้นพบว่าแผ่นดินเปลี่ยนไปหมดเลย จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี มีพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่ มีชาวบ้านมากมาย ต่อมา ตนได้ขับรถจักรยานยนต์วกกลับไปที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีป่าและต้นไม้ใหญ่ ตนได้พบเห็นวัฒนธรรมทางพุทธศาสนาหลายสิ่งหลายอย่างตามที่ตนตั้งใจไว้ จนกระทั่งกลับมาที่หอพักในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น นางเพลินจิต ได้กล่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ออกช่วยตามหาลูกชายตนด้วยความห่วงใย พร้อมกับให้ลูกชายเข้าไปอาบน้ำพักผ่อนเนื่องจากลูกชายเริ่มมีอาการพูดจาสับสนจากการขับรถจักรยานยนต์กลางแดดที่ร้อนเพื่อได้สงบจิตใจและเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบต่อไป
