นักวิจัยนกเงือก สะเทือนใจเจอซากแม่นกกก นอนตายคาโพรงบนเทือกเขาบูโด สันนิษฐานพ่อนกอาจถูกยิงตาย ส่วนแม่นกยังอยู่ในช่วงผลัดขนออกหากินไม่ได้ ต้องรอพ่อนกหาอาหารกลับมาป้อน ทีมวิจัย เฝ้านาน 1 เดือนถึงพบว่าตาย และยังเจอหัวนกตัวผู้ ระบุปีนี้พบนกเงือกทำรัง 47 ตัว
วันนี้ (8 พ.ย.2562) นายปรีดา เทียนส่งรัศมี หัวหน้าโครงการคุ้มครองนกเงือก (ส่วนภาคใต้) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊ก Preeda Budo ว่า เช้าวันนี้เราขึ้นมาเช็กโพรงรังนกกก หมายเลข 108 ที่ต้นก้างปลา ปีนี้นกเข้ารังแต่ไม่สำเร็จ
อาบัส มาเก็บข้อมูลได้เพียง 1 เดือนพ่อนกก็หายไป หลังสิ้นสุดฤดูทำรัง ทีมซ่อมโพรงจึงปีนขึ้นไปสำรวจปากโพรงปกติ แต่ภายในโพรงรัง พบเศษซากของแม่นกกก ตายอยู่ภายใน
“สันนิษฐานว่าพ่อนกอาจถูกยิงตาย และแม่นกไม่สามารถบินได้เนื่องจากกำลังผลัดขน จบไปอีก 2 ชีวิต ต้อนรับยามเช้าที่แสนเศร้า เขากะพ้อ ต.กะรุบี”
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายปรีดา กล่าวว่า ทีมวิจัยไปเฝ้าแม่นกกก ที่เข้าโพรงหมายเลข 108 มาประมาณ 1 เดือน เนื่องจากในช่วงนี้นกเงือกในป่าบูโด จะเข้าไปทำรังวางไข่ และตัวแม่จะเริ่มผลัดขนในโพรง ส่วนพ่อนก จะคอยหาอาหารมาป้อนให้กับแม่ทุกวัน กระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง ไม่เห็นพ่อมาแล้ว แต่นักวิจัยก็ยังไปเฝ้า และเห็นความปกตินี้มาตลอด
“เมื่อขึ้นไปสำรวจโพรง จึงเจอซากแม่นกก นอนตายในโพรง ไม่เจอซากไข่ แต่สันนิษฐานว่าตัวพ่อน่าจะถูกยิงตาย เพราะในจุดไม่ไกลกันมากนัก ชาวบ้านเจอหัวของนกกกตัวผู้ในบริเวณต้นไทรที่นกไปหาอาหาร”
โพรงแรกในรอบปีแม่นกรอพ่อจนตาย
นายปรีดา กล่าวว่า ช่วงนี้นกเงือกจะจับคู่ และอยู่ในช่วงทำรังวางไข่ กรณีของแม่นกกกที่เจอนี้ ถือเป็นโพรงแรกของปีนี้ แต่หัวตัวผู้เจออาจจะไม่ใช่คู่ของตัวนั้น แต่ถ้าเป็นคู่ของแม่นกในโพรงที่ตาย ในมุมของตัวเองก็คิดว่าดีกว่า เพราะเท่ากับครอบครัวนี้ตายยกครัว แต่หากเป็นของโพรงอื่นๆก็จะทำให้มีนกคู่อื่นตาย เท่ากับสูญเสียถึง 2 เท่า
“สัญชาติญาณของพ่อนก จะต้องหาอาหารมาป้อนอาหารให้กับแม่นก จากการสำรวจโพรงรังนกที่เทือกเขาบูโด มีประมาณ 200 รัง มีนกใช้ทำรังแล้ว 47 โพรงหรือร้อยละ 50% ถือว่าปกติ ยังไม่เพิ่มขึ้น ”
และตามธรรมชาติของแม่นก ถ้าเข้าโพรง ผลัดขนวางไข่จะบินไม่ได้ ไม่สามารถออกไปหาอาหาร เมื่อตัวผู้หายไป ก็จะตายไปด้วย เพราะนกเงือกเป็นสัตว์ที่รักเดียวใจเดียว หากตัวผู้ตายไปจะหมายถึงอีก 2 ชีวิตที่รออยู่ และจะอดอาหารตายในที่สุด
ที่ผ่านมา ยังมีออเดอร์การล่าลูกนก และเอาหัวนกเงือก กรณีของหัวนกตัวผู้ที่เจอตายอยู่ไม่ห่างจากต้นไทร ไม่แน่ใจว่าจะตายคาที่แล้วบินตกมาตาย เพราะโดยธรรมชาตินกเงือก ในธรรมชาติจะไม่ป่วยตายเพราะตัวผู้ร่างกายต้องแข็งแรง ดังนั้นดูจากสภาพแวดล้อมแล้วคิดว่าน่าจะถูกฆ่าตาย เพราะเขาต้องอยู่บนที่สูงต้องถูกยิงอย่างเดียวในจุดสำคัญและตกลงมาตาย
“รู้สึกสะเทือนใจ เหมือนกับครอบครัวนกตายยกครัว แม้จะไม่เจอไข่นก และลูกนกนอนตายกับแม่ในโพรง แต่ปีที่ผ่านมาเคยเจอลักษณะนี้มาแล้ว 2 โพรงโดยโพรงแรกแม่นกตาย 1 ตัวและอีกโพรงแม่นกตายพร้อมซากลูก ”
แม่รอพ่อนกกลับมาให้อาหารลูก
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ในช่วงฤดูทำรัง คือช่วงเวลาสำคัญของนกเงือก เพราะชีวิตของแม่และลูกต้องฝากไว้กับพ่อนกแต่เพียงผู้เดียว พ่อนกเงือก จะบินเข้าออกที่ต้นไทร และต้นผลไม้สุกวันละหลายครั้ง เก็บโยนผลไม้ครั้งละ 1 ลูก สะสมไว้ในกระเพาะพักแล้วพากลับมาป้อนให้แม่ และลูกนกในโพรงรัง ดังนั้นนกเงือกจึงเป็นนกที่ผัวเดียวเมียเดียว (Monogamus) พ่อนกเงือกนั้นต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก หากพ่อนกถูกยิงตายหมายถึงอีก 2 ชีวิตที่รออยู่ และจะอดอาหารตายในที่สุด
นกเงือกที่อยู่ในธรรมชาติตายนั้น ส่วนใหญ่ก็จะถูกยิงตาย เราไม่เคยพบนกเงือกป่วยหรือถูกงูกัดตายเพราะงูคืออาหารของมัน ส่วนศัตรูในธรรมชาติก็น้อยมากเช่นหมีขอ หมีหมา และหมาไม้ แต่ก็ยากที่จะมาจับนกเงือกกิน เว้นเสียจากลูกและแม่นกที่อยู่ในโพรงหรือเวลาที่ลูกนกยังปิดปากโพรงไม่เสร็จ
“หากเราพบหัวหรือซากนกเงือกตัวผู้ในฤดูทำรัง แน่นอนว่าอาจจะมีแม่นกฟักไข่เลี้ยงลูกที่ใดซักแห่งในโพรงไม้ในป่าและรอความตายอย่างทรมาน ดังเช่นกรณีที่เราพบแม่นกเงือกตายอยู่ในโพรงรังนั่นเอง”
สำหรับ นกกก นกกะวะ หรือ นกกาฮัง เป็นนกขนาดใหญ่จำพวกนกเงือก นกกก สามารถพบได้ในป่าของอินเดีย, คาบสมุทรมลายู, สุมาตรา และอินโดนีเซีย ด้วยขนาดและสีทำให้นกกกเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญเชิงวัฒนธรรมและพิธีกรรมในหลายชนเผ่า นกกกเป็นนกที่มีอายุยืน นกในกรงเลี้ยงสามารถมีอายุได้ถึง 50 ปี ปกติจะกินผลไม้เป็นอาหาร โดยเฉพาะลูกไทร