สมัยที่หลวงพ่อเรียนหนังสืออยู่ที่วัดสระปทุม (วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร) ที่กรุงเทพฯ เวลาเข้าห้องเรียน สายตามองจ้องอาจารย์ผู้สอน ส่งใจไปรวมไว้ที่ตัวอาจารย์ เอาไปเอามา มันเกิดมีสมาธิขึ้นมาได้
ที่ว่ามีสมาธิก็เพราะว่า ในตอนแรกๆ สายตาและใจของเราจ้องอยู่ที่ตัวอาจารย์ ภายหลัง มันย้อนมาเตรียมพร้อมอยู่ที่ตัวเราเอง พอมาตอนนี้ อาจารย์อธิบาย อะไรให้ฟัง พอท่านหยุดหายใจ เราสามารถรู้ล่วงหน้าว่า ต่อไป อาจารย์จะพูดอะไร เวลาไปสอบ อ่านคำถามจบ ใจมันว่างลงนิดหนึ่ง คำตอบก็ผุดขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด ก่อนหน้าจะไปสอบ มันรู้ข้อสอบล่วงหน้าหมด
ภายหลังมาคิดว่า เอ๊ะ ! มันเป็นได้แต่เราคนเดียวหรือ ก็พอดีมีหลานสาวคนหนึ่งจะไปเรียนมหาวิทยาลัย แม่เขาพากันมา ก็บอกว่า
“หลานจะเรียนมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติสมาธิด้วย”
เขาก็ขัดแย้งว่า “ตาจะให้ไปเรียนแล้วจะให้ปฏิบัติสมาธิด้วย ให้หนูเอาเวลาไหนไปเรียน”
“เอาเวลาเรียนนั่นแหละปฏิบัติสมาธิ”
ก็แนะนำให้มองจ้องอาจารย์ ส่งจิตไปรวมไว้ที่ตัวอาจารย์ เขาก็ได้ผลดีเป็นที่พอใจ แล้วเด็กคนนี้รู้ข้อสอบล่วงหน้าหมด ระดับ ปริญญาตรีก็ได้เกียรตินิยม ปริญญาโทก็เกียรตินิยม เวลานี้ไปทำปริญญาเอกอยู่อเมริกา
ไปอยู่โน่นยังโทรศัพท์ข้ามทวีปมา
“ตา ! หนูรู้ข้อสอบล่วงหน้าอีกแล้ว พวกเพื่อนฝรั่งเขากำลังสนใจสมาธิกัน”
“เออ ! เขาสนใจก็สอนให้เขาด้วย”
นักเรียน เอาการเรียนเป็นอารมณ์จิตในการภาวนา
นักทำงาน เอางานเป็นอารมณ์จิตในการภาวนา
นักคิดนักวางแผน เอาการคิด การวางแผน เป็นอารมณ์จิตในการภาวนา
– พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) วัดป่าสาลวัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
หนังสือ ฐานิยบูชา ๒๕๕๒ หน้า ๓๒-๓๓ /// Thkz cr : dhammajak.net