10-3-2-1-0 สูตรก่อนนอน ที่จะช่วยให้ตื่นมาสดชื่น โดยการเอาชนะใจของตนเองเป็นหลัก
การนอนหลับผักผ่อนไม่เพียงพอมีความเสี่ยงต่อภูมิต้านทานลดลง เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ แถมยังอาจส่งผลให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนผิดปกติจนโหยอาหารและอ้วนง่ายขึ้น
วิธีการนี้จะช่วยให้สามารถเข้านอนได้ตรงเวลา นอนหลับสนิท และตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยความแจ่มใสอย่างคนพักผ่อนเต็มที่และพร้อมสำหรับการทำงานในแต่ละวัน มาติดตามกันเลยว่าวิธี 10-3-2-1-0 จะมีอะไรบ้าง…
10 ชั่วโมงก่อนนอน: หยุดดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เพียงกาแฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชา เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลมอื่น ๆ ระยะเวลา 10 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งส่งผลทำให้ “นอนไม่หลับ”
3 ชั่วโมงก่อนนอน: คือ ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ จะไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ที่ช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการเลี่ยงอาการจุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ที่จะไปรบกวนการนอนหลับของคุณได้
2 ชั่วโมงก่อนนอน: หยุดทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะทำงาน ทำการบ้าน อ่านรายงาน หรือเช็กอีเมล ให้ผ่อนคลายสมองด้วยการหยุดทำงานล่วงเวลาให้เก็บไว้ทำวันถัดไป เพื่อให้ตัวเองมีจิตใจที่ผ่อนคลายและลดความเครียดให้น้อยลง แต่ทว่าสำหรับบางคนที่มีงานเร่งและงานด่วน ลองปรับและจัดลำดับความสำคัญ
1 ชั่วโมงก่อนนอน: ลดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปิดโทรศัพท์ ทีวี และคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เนื่องจาก เพราะแสงสีฟ้า (blue light) จากหน้าจอ จะส่งผลให้ประสิทธิภาพการนอนหลับลดลง
0 : จำนวนครั้งที่คุณจะกดปุ่มเลื่อนนาฬิกาปลุก หากคุณได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะไม่มีการเลื่อนนาฬิกาปลุก หากกดปุ่มเลื่อนนาฬิกาปลุก เพื่อแลกกับการนอนต่อ พฤติกรรมนี้ทำให้เรานอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ และเป็นการเริ่มต้นการนอนหลับรอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้เรานอนหลับไม่เพียงพอ รู้สึกไม่สดชื่นไปตลอดทั้งวันได้
