“พระครูวิธูรธรรมสาสน์” หรือ “หลวงพ่อกล่อม นันทะ” อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาวาส ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่งของภาคใต้
อัตโนประวัติหลวงพ่อกล่อม เป็นคนพื้นเพจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยกำเนิด เป็นชาวบ้านริมคลองท่ามะตูม ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันพุธ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๓๘๙ ท่านมีนามเดิมว่า กล่อม แก้วกล่อม โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายคงแก้ว และนางนุ้ย แก้วกล่อม ในวัยเด็กศึกษาหนังสือไทยและอักขระสมัยที่วัดโพธาวาส ก่อนอุปสมบทนั้น เคยแต่งงานครองเรือน จนมีบุตร ๑ คน
แต่ด้วยความเบื่อหน่ายชีวิตฆราวาส จึงตัดสินใจอุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๔ ปี เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๑๓ ณ พัทธสีมาวัดโพธาวาส โดยมีพระครูสุวรรณรังษี (มี) เจ้าอาวาสวัดโพธาวาสและเจ้าคณะเมืองกาญจนดิษฐ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
ภายหลังอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดโพธาวาส อยู่ศึกษาวิชาจากพระครูสุวรรณรังสี
เมื่ออยู่ในสมณเพศ หลวงพ่อกล่อมเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง ต้องลงโบสถ์ทำวัตรเช้า-เย็นทุกวันไม่เคยขาด แม้จะอาพาธก็ตาม
ท่านเคยกล่าวไว้ว่า “วันใดที่ท่านไม่ได้ลงโบสถ์ นั่นหมายถึงวาระสุดท้ายของชีวิตได้สิ้นแล้ว” นอกจากนี้ ยังตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมและท่องบทสวดมนต์เจ็ดตำนานสิบสองตำนานจนขึ้นใจ มุ่งมั่นปฏิบัติวิปัสสนาธุระ จนเป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านทั้งหลาย
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๓๒ พระครูสุวรรณรังษี ย้ายไปครองวัดกลางหลวงพ่อกล่อมจึงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธาวาสสืบแทน
หลวงพ่อกล่อม เป็นพระนักพัฒนา ทำนุบำรุงและปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญรุ่งเรืองอยู่เสมอ ด้วยคุณงามความดีของหลวงพ่อกล่อม ชาวบ้านจึงมักเรียกชื่อท่านว่า “พ่อท่านกล่อม”
หลวงพ่อกล่อม เป็นพระเกจิผู้ทรงวิทยาอาคม และมีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องเรือแข่ง ในงานประจำปีของ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เรียกว่า งานชักพระ ซึ่งจะมีการแข่งขันเรือยาวกัน
สมัยนั้น เรือของวัดโพธาวาสไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ต่อผู้ใด เล่ากันว่า ท่านให้ลูกศิษย์จัดการขุดเรือขึ้นมา พอเวลาเช้าของวันแข่งขันท่านจะออกมายืนริมคลองมะขามเตี้ยแล้วบริกรรมคาถา ปรากฏว่าเรือที่จอดอยู่บนคานแล่นลงน้ำได้อย่างอัศจรรย์
นอกจากนี้ ท่านยังสามารถบริกรรมคาถาสะกดจระเข้ ซึ่งชุกชุมยิ่งนักในบริเวณลำน้ำมะขามเตี้ยและแม่น้ำตาปี ได้เช่นเดียวกับพ่อท่านคล้าย แห่งวัดสวนขัน ร่ำลือกันว่าคาถาสะกดจระเข้ของหลวงพ่อกล่อม จะทำให้จระเข้ที่ว่ายน้ำผ่านหน้าวัดต้องโผล่หัวผ่านไป และปากก็ไม่สามารถอ้าขึ้นได้เช่นกัน
ดังนั้น วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่นิยมของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและชาวสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างสูง ส่วนใหญ่ท่านจะสร้างตะกรุดและสาลิกาลิ้นทอง ที่มีพุทธคุณเข้มขลังในด้านอยู่ยงคงกระพัน แต่ที่เป็นที่นิยมและหายากที่สุด คือ “เหรียญหล่อรูปเหมือนรุ่นแรก” ที่สร้างในปีพ.ศ.๒๔๗๐ โดยหล่อกันที่ โรงครัว จึงมักเรียกกันว่า “รุ่นโรงครัว”
ลักษณะเป็นเหรียญหล่อแบบโบราณทรงกลมรี หูขวาง หล่อด้วยเนื้อทองผสมเงินหัวนะโม และทองคำที่ชาวบ้านนำมาถวายใส่เบ้าหลอม เนื่องจากเป็นการหล่อแบบโบราณ เหรียญจึงมักชำรุดหรือติดไม่เต็มพิมพ์ เหรียญหล่อรูปเหมือนพระครูวิธูรธรรมสาสน์ ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ จึงมีน้อยมาก
หลวงพ่อกล่อม มรณภาพลงเมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๔๗๔ สิริอายุ ๘๖ ปี พรรษา ๖๒ และได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๗๕ ที่วัดพัฒนาราม ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีหลวงพ่อพัฒน์ นารโท เจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม เป็นเจ้าภาพ
เล่าขานกันว่า ในเช้าวันที่ท่านจะมรณภาพนั้น หลวงพ่อเกิดอยากฉันน้ำมะพร้าวอ่อนขึ้นมา ลูกศิษย์จึงได้ปีนต้นมะพร้าวเก็บมาให้ท่านลูกหนึ่ง ครั้นเมื่อผ่ามะพร้าวออกมา ปรากฏว่ามีลูกปลาอยู่ภายในมะพร้าวนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงให้ลูกศิษย์นำไปใส่ไว้ในโถแก้ว ตกเย็นวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๔๗๔ ก็มรณภาพและปลาที่พบในมะพร้าวก็ได้จากไปอย่างน่าประหลาด
เรียบเรียง – ขอบคุณที่มา ภาพถ่ายพระเกจิคณาจารย์