มุมมองร่วมสมัยต่อคำว่า “ร่างทรง” และ “คนมีองค์” นั้น แบ่งออกเป็นสองขั้วในปัจจุบัน บ้างก็ว่าเป็นเรื่องงมงาย บ้างก็ศรัทธาว่ามีจริง ซึ่งไม่มีความเห็นใดผิดเพราะต้องยอมรับว่าเรื่องแบบนี้มีทั้งจริงๆ เท็จๆ เท็จๆ จริงๆ ขึ้นอยู่กับผู้พูดได้พบเจอประสบการณ์แบบใดมา ซึ่งในกลุ่มผู้ศรัทธานั้นบางคนมองว่าการเป็น “ร่างทรง” เป็นเรื่องมีเกียรติเป็นคนที่มีความพิเศษ เป็นที่เคารพในท่ามกลางปุถุชนคนธรรมดา แต่หากไปถามร่างทรงแท้ๆ โดยเฉพาะร่างที่องค์เทพใช้ประทับเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ต่อความเห็นนี้ ทุกคนย่อมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า”
เบื้องหลังชีวิต “ร่างทรง” และ “คนมีองค์” ที่มีร่างสังขารเป็นสะพานให้องค์ครูช่วยเหลือ ชี้แนะ ชี้นำ ขจัดปัดเป่าความทุกข์แก่เพื่อนมนุษย์ทุกคนล้วนต้องผ่านสมรภูมิชีวิตมาอย่างหนักหน่วงกว่าคนทั่วไป ความเป็นอยู่แค่พอมีกิน มีใช้ ไม่ให้มีทรัพย์มากมายไปบำรุงบำเรอกิเลส ชีวิตส่วนตัวต้องผ่านการทดสอบ ผ่านการชำระวิบากกรรม และผ่านความทุกข์ ความเสียใจ ความคับแค้นใจและการสูญเสีย ความเจ็บปวดทั้งกายและใจ
* เพื่อที่จะเรียนรู้ ได้อบรมจิตของตนต่อคำว่า “ทุกข์” และ “หนทางการดับทุกข์” อย่างลึกซึ้ง ก่อนไปช่วยเหลือชี้แนะผู้อื่น ชีวิตจึงต้องผ่านร้อน ผ่านหนาว ต้องหลอมหัวจิตหัวใจให้แข็งแกร่ง มิใช่การแสดงองค์เท่ห์ โก้ๆ ให้คนกราบไหว้อย่างที่เข้าใจกันโดยผิวเผิน “ร่างทรง” และ “คนมีองค์” ที่ต้องใช้ร่างเป็นทางผ่านให้ครูบาอาจารย์ช่วยเหลือผู้อื่นต้องผ่านบททดสอบบทเรียนชีวิตอะไรบ้าง*
1. ทดสอบใจว่าระหว่างคนที่รัก ของที่รัก กับการเสียสละทำหน้าที่ให้องค์เทพผ่านในการช่วยเหลือคนและปกป้องพระพุทธศาสนา จะต้องยอมสูญเสียอะไร (เจ็บแทบขาดใจ)
2. ต้องผ่านการสูญเสีย การหักหลัง และการเสียใจอย่างแสนสาหัส เพื่อทดสอบว่าจะถอยไหมกับการช่วยคน และจะผ่านได้ไหม
3. ต้องผ่านคำครหานินทา ว่ากล่าว ให้ร้าย ป้ายสีต่างๆนานา แม้กระทั่งถูกมองว่าบ้า เพ้อเจ้อและงมงายจากสังคมทั่วไป
4. ต้องยอมเสียสละชีวิตความเป็นส่วนตัวเกือบทั้งชีวิต เพื่อทำงานช่วยคน รู้ไม่ช่วยก็ผิด รู้ไม่บอกก็ผิด
5. ต้องยอมเอาร่างกายแบกรับความเจ็บปวดทรมาน รับวิบากกรรมแทนคนที่ช่วยเหลือเพราะไปล่วงกรรมของเขา แก้กรรมให้เขา
6. ทุกครั้งที่ช่วยคนถ้าทำดีได้บุญถ้าทำพลาดหรือทำไม่ดีลงไป ต้องยอมเอาอายุขัยเข้าแลก กับการช่วยคน หากทำดีบุญจะส่งผลให้ช่วยคนต่อ และเป็นการต่ออายุตัวเองให้อยู่เพื่อนสร้างบุญบารมีทั้งภพนี้และภพหน้า
7. ต้องเข้มแข็งต่อหน้าผู้คน แม้อ่อนแอ อ่อนแรง มีแต่เทพที่เข้าใจปลอบใจ หามนุษย์ข้างกายเข้าใจได้ยาก จึงเป็นสาเหตุให้มีคู่บารมียากยิ่ง
8. ต้องคอยเป็นศิราณีให้ผู้คนมากมาย เป็นเสียยิ่งกว่าหมอจิตแพทย์เสียอีก ทั้งรับรู้และแก้ปัญหา
9. ต้องผ่านการเสียใจแบบสุดๆ น้ำตาตกในไหลแทบเป็นสายเลือด
10. ต้องอยู่อย่างสันโดษเพียงเดียวดาย ในขณะที่ทุกคนสนุกสนานแต่สังขารเทพต้องมาปฏิบัติธรรมทำหน้าที่
* ส่วนนี้นำสาระสำคัญมาจาก Facebook : ปาฏิหาริย์ แห่งบุญ กรรมพยากรณ์
ด้วยเหตุนี้ ร่างทรงโดยมากที่ผ่านบททดสอบชีวิตมาแล้ว จึงมักไม่ค่อยอยากมีชื่อเสียง เพราะยิ่งดังเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงคนมีทุกข์เข้าหาตัว เพราะต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้คือผู้ที่แสวงหาที่พึ่งทางใจ เขาหมดทุกข์แล้วเขาก็จากเราไปอยู่ดี เขาเพียงแต่ทำหน้าที่ของเขาในการสละร่างเป็นทางผ่านให้ครูบาอาจารย์เพื่อร่วมสร้างบุญ บารมีร่วมกับครูบาอาจารย์ และปล่อยวางในโลกธรรม 8 เพียงเท่านั้น ดูน้อยลง
เครดิตแหล่งข้อมูล :fb