แม่เด็ก ม.3 เศร้า เข้าค่ายลูกเสือไม่ควรมุดน้ำ ย้ำลูกว่ายน้ำไม่เป็น ตร.เผย 2 ครูคุมฐานยังช็อก ไม่พร้อมคุย

3588
views

จ.กาฬสินธุ์ – จากกรณีชุดค้นหาใต้น้ำกู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์การกุศล ช่วยกันนำร่าง นายเก้า (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ขึ้นมาจากหนองน้ำหลังวัดบ้านนาค้อที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากจมน้ำเสียชีวิตระหว่างร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยผู้ปกครองและนักเรียนระบุว่าเด็กถูกสั่งให้มุดน้ำ ฐานหนีสงครามหลบระเบิด ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น จนจมน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มีนาคม พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.อัศวิน หงษ์โยธี พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก เจ้าของคดี ได้เรียกกลุ่มเพื่อนนักเรียนของนายเก้า พร้อมด้วยพ่อและแม่ของนายเก้าเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้น รวมทั้งผู้บริหารและคณะครูของเรียนมาสอบปากคำ เพื่อสาเหตุการเสียชีวิต

โดยส่วนใหญ่เพื่อนของผู้เสียชีวิต ระบุว่า การเข้าร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือ ทุกคนจะถูกสั่งให้เข้าฐานหนีสงครามหลบระเบิดมุดน้ำ โดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ ห่วงยาง รวมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก

ด้าน ผู้อำนวยการ และ คณะครู เบื้องต้นยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำ เนื่องจากอยู่ในอาการเสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ พละเอ็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเข้าตรวจสอบบริเวณหนองน้ำจุดเกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายสุนทรา กุลาสา ผู้อำนวยการโรงเรียน และคณะครูโรงเรียนบ้านนาค้อวิทยาคม พร้อมเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

นายสุนทรา กล่าวว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้สถานที่สาธารณะหมู่บ้าน ซึ่งมีสระน้ำสาธารณะห่างอยู่ด้านข้างทิศเหนือ มีถนนคั่นกลาง จากโรงเรียนประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือทุกปี โดยในการจัดกิจกรรมได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละ 13-15 คน เข้าร่วมกิจกรรมฐานต่างๆ รวม 6 ฐาน ประกอบด้วย ฐานลำเลียงน้ำ ฐานบัวตูมบัวบาน ฐานท่องกฎและคำปฏิญาณ ฐานเงื่อน ฐานปิดตาไต่เขา และฐานหลบระเบิด

นายสุนทรากล่าวว่า แต่ละฐานจะมีครูผู้ควบคุมดูแล 2 คน ซึ่งฐานที่เกิดเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำเป็นฐานที่ 6 ฐานสุดท้าย ได้ให้นักเรียนลงไปในน้ำ เพื่อล้างเนื้อล้างตัว ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุทางคณะครูก็ได้มีการเฝ้าระวังและเช็กจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกฐาน

นายสุนทรากล่าวอีกว่า ส่วนกรณี “นายเก้า” ที่จมน้ำเสียชีวิตนั้น คาดว่าไม่มีใครสังเกตเห็นนายเก้า เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า แต่กลับมาเข้าร่วมในช่วงบ่าย ซึ่งคณะครูผู้ควบคุมได้เช็กจำนวนนักเรียนหลังจากทุกคนขึ้นมาจากหนองน้ำ พบว่าครบ จึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบทีหลังว่าหายตัวไป และจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนและคณะครูก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก พร้อมให้ความช่วยเหลือ และยืนยันว่า ฐานค่ายลูกเสือที่ลงไปในน้ำไม่ได้บังคับให้ลงไปทุกคน

ขณะที่บรรยากาศงานศพ “นายเก้า” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ภายใน ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติ ทุกคนต่างติดใจการเสียชีวิต โดยระบุว่าเหตุสลดที่เกิดขึ้นเกิดจากความประมาทของครูผู้ควบคุมกิจกรรม

แม่ของนายเก้า กล่าวว่า วันเกิดเหตุทราบว่าทางโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะมีการให้เด็กนักเรียนลงไปมุดน้ำ กระทั่งช่วงเย็นไม่เห็นลูกชายกลับบ้าน ซึ่งปกติจะกลับบ้านตรงเวลา ด้วยความเป็นห่วงจึงไปตามหาลูกชาย และสอบถาม ผอ.และครูหลายครั้ง ซึ่งทุกคนก็บอกว่าไม่เห็น อีกทั้งยังไม่ค่อยสนใจ ก่อนที่ชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านจะประกาศออกช่วยกันตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงเข้าแจ้งความ

แม่นายเก้าระบุอีกว่า จากนั้นได้สอบถามเพื่อนของลูกชาย หลายคนบอกว่าเห็นครั้งสุดท้ายตอนที่ลงไปในสระน้ำร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือ เบื้องต้นคาดว่าลูกชายน่าจะจมน้ำ จึงประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ กระทั่งพบว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิตจริงๆ

แม่นายเก้ากล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น การเข้าค่ายลูกเสือไม่ควรที่จะต้องไปลงน้ำ มุดน้ำ โดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเช่นลูกชายของตน อีกทั้งเท่าที่ทราบ การเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์การให้ความช่วยเหลือเด็กก็ไม่มี ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหันอย่างนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกชายของตนด้วย

สำหรับเรื่องของคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามเด็กนักเรียนเบื้องต้นพบว่าการจัดกิกจรรมค่ายลูกเสือ โดยเฉพาะ “ฐานหลบระเบิด” ที่เป็นจุดเกิดเหตุ เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ กว้างเท่ากับสนามฟุตบอล หลายจุดมีความลึกนั้นไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ หรือห่วงยาง รวมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียด และเด็กนักเรียน ซึ่งต้องสอบร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เพื่อหาสาเหตุว่าการจมน้ำเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ

อย่างไรก็ตาม สำหรับครูฝึกชายและหญิง 2 คนที่เป็นครูฝึกและผู้ควบคุมฐานที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากครูทุกคนยังอยู่ในอาการเสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังไม่พร้อมให้ข้อมูล

「 ดูข่าวต้นฉบับ 」

แม่เด็ก ม.3 เศร้า เข้าค่ายลูกเสือไม่ควรมุดน้ำ ย้ำลูกว่ายน้ำไม่เป็น ตร.เผย 2 ครูคุมฐานยังช็อก ไม่พร้อมคุย

  ถมนคร เครื่องถมเมืองนคร