พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว พร้อมรัฐมนตรีที่ทยอยฉีดอีกกว่า 10 ราย โดยมีหมอยง เป็นผู้ฉีดให้ที่กล้ามต้นแขน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายกฯถามกลับหมอว่า ฉีดแล้วใช่หรือไม่ เพราะไม่รู้สึกอะไรเลย พร้อมยืนยัน วัคซีนมีความปลอดภัย ทำตามคำแนะของแพทย์ ตอนนี้ยังไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. เวลา 08.30 น. บรรยากาศภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลมีบรรดารัฐมนตรีที่สมัครใจเข้ารับวัคซีน โควิด -19 โดยสถาบันบำราศนราดูร ทยอยลงทะเบียน จากนั้นได้วัดความดันตามขั้นตอน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะฉีดวัคซีนของ Astrazeneca เป็นคนแรก โดยกล่าวก่อนเข้ารับการฉีดว่า “ตนเองมีความพร้อม” แล้ววัคซีนของ Astrazeneca ได้รับการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการฉีดวัคซีนในวันนี้ โดยเป็นการฉีดวัคซีนของ Astrazeneca เข็มแรกในประเทศไทย แต่ไม่ได้ฉีดเฉพาะนายกรัฐมนตรีเท่านั้นยังมีคณะรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากจะได้รับการฉีดในวันนี้ไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนโดยรวม ซึ่งสิ่งที่ตนเองกังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ ทำอย่างไรให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้รับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้เตรียมการและบริหารจัดการ จัดหาวัคซีนมาโดยตลอด ที่ได้พิจารณาวัคซีนที่เหมาะสมกับประเทศไทย และไทยมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าการฉีดวัคซีนในวันนี้จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเพราะหลายประเทศในยุโรปได้ใช้วัคซีนนี้แล้ว พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนสำคัญเพียงผู้เดียว ทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด จึงพยายามเดินหน้าให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มขีดความสามารถการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ให้สอดคล้องกับวัคซีนที่ได้มาในปัจจุบัน ขออย่าวิตกกังวล ขอให้เชื่อฟังแพทย์ ซึ่งตนเองก็รับฟังทีมแพทย์มาโดยตลอด และมีความพร้อมที่จะฉีดอยู่ตลอดเวลา
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ชั่งน้ำหนักและวัดความดัน ที่อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีความเสี่ยงต่อการฉีดวัคซีน โดยได้รับคำแนะนำจากแพทย์และพยาบาล และได้เซ็นยินยอมการฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ โดยนายกรัฐมนตรีได้เลือกขวดวัคซีน Astrazeneca ด้วยตนเอง พร้อมชูวัคซีนให้กับกล้องสื่อมวลชน และระบุว่า “ขออย่าเขียนอะไรให้มันเลอะเทอะ มโนไปเรื่อย เขียนข่าวก็ขอให้เขียนข่าวดีๆ” จากนั้นได้ส่งให้กับพยาบาลได้เตรียมวัคซีน โดยนพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ฉีดให้
โดยภายหลังการฉีดวัคซีน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปกติดี ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะพร้อมฉีดอยู่ตลอดเวลา วันนี้ยินดีและขอบคุณคณะบุคลากรทางการแพทย์ ที่ช่วยกันทำงานที่ช่วยกันทำงานจนมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ในการฉีดวัคซีนของ Astrazeneca ให้กับประชาชน และในระยะต่อไป จะมีการพูดคุยถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีน ซึ่งขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการในวันนี้เป็นการทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ และยืนยันจะแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด ไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยก็ตาม ขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจ และเป็นห่วง แต่เราต้องเชื่อมั่นในทีมแพทย์และการสาธารณสุขของไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ปัญหานี้จะแก้ไขได้ด้วยการร่วมมือกัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับบัตรนัด รายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 25 พ.ค. 64 และ ทางแพทย์ได้มีการฉีดวัคซีนให้กับคณะรัฐมนตรีที่สมัครใจ
ด้านนพ.ยง ระบุว่า เราจะหยุดวิกฤตการแพร่ระบาดด้วยวัคซีน ซึ่งไม่ใช่เพื่อการป้องกันตนเองเท่านั้น ยังช่วยป้องกันคนอื่นด้วย และถ้าทุกคนร่วมมือฉีดวัคซีน ก็จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ประเทศไทยจะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการฉีดวัคซีน ต้องเฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัคซีนของนายกฯ ในวันนี้มีเลขท้าย 3 ตัว คือเลข 509
“บิ๊กตู่” ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มประวัติศาสตร์ เลขขวดลงท้ายด้วย 509
