‘บิ๊กตู่” ลั่น ใส่ม็อบ!! ไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินนี้. มันไม่ใช่อ่ะมั้ง” ชี้ ผมเคยประกาศแล้วว่าจะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงใส่กัน แต่คราวนี้. มีประจักษ์พยานชัดเจนตำรวจกำลังบังคับใช้กม. คนใช้ความรุนแรงและมีอาวุธ ตำรวจต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เผย ตอนมีการชุมนุม จับไม่ได้แต่หลังจากนั้นกฎหมายมัน ตามได้ทุกตัว ทุกคนแหละ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม. กล่าวเหตุการณ์การชุมนุม และการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวานนี้ว่า ผมติดตามสถานการณ์การชุมนุม. และได้ติดตามทางสื่อโซเชียล และการรายงานจากเจ้าหน้าที่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเมื่อวานได้พบปะกันหารือกัน เพื่อหาแนวทางที่ปลอดภัยให้กับทุกกลุ่มทุกฝ่าย และให้ความเป็นธรรมในเรื่องสิทธิการชุมนุมให้ถูกต้องตามกฏหมาย การขออนุญาต ขออนุมัติอะไรก็แล้วแต่ ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรง แต่ท่านได้เห็นกันแล้วว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันมีความรุนแรงเกิดขึ้น
ดังนั้นต้องระมัดระวังให้มากที่สุด และเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิจารณาดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่ามีการใช้ความรุนแรง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า นั่นสิ ไม่ต้องดู
ไม่ต้องดูอ่ะ ก็เห็นกันอยู่ เพราะฉะนั้นความเข้มข้นเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายก็ต้องมีมากขึ้น เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น “ผมเคยประกาศแล้วว่าจะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงใส่กัน
แต่คราวนี้. มีประจักษ์พยานชัดเจน มีรูปถ่าย มีอะไรต่างๆซึ่งตำรวจกำลังดำเนินการอยู่. ที่มีการใช้อาวุธอะไรต่างๆท่านต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเขาพยายามที่จะทำด้วยความละมุนละม่อม
แต่ก็กลับมีการใช้กำลังต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บไปหลายนายด้วยกัน ก็ขอให้เข้าใจด้วยว่า เรา จำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย แม้อาจจะทำไม่ได้บังคับใช้ไม่ได้ ในขณะที่มีการชุมนุมเยอะเยอะแต่หลังจากนั้นกฎหมายมัน ตามได้ทุกตัว ทุกคนแหละ ที่ทำความผิด ไม่ว่าจะใครก็ตาม
ยืนยันว่า จะไม่จำเป็นต้องมีการใช้กฎหมายพิเศษ
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรเพราะต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ในการชุมนุมพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เธอก็ไปถามเขาสิ ต้องถามเขาว่า สิทธิในการชุมนุมสิทธิที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายมันคืออะไร ไปละเมิดสิทธิของคนอื่นหรือไม่ ดูกฎหมายลูกด้วย เข้าใจไหมที่เขียนไว้มีตั้ง2-3 วรรคตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กระทบต่อศักยภาพของประเทศ ความเชื่อมั่นของประเทศ ต่อไปใครจะไป ใครจะมาลงทุนล่ะ หากมีการใช้ความรุนแรงกันอยู่แบบนี้ ความเชื่อมั่นในสายตาของต่างประเทศ ก็ลดลงเมื่อลดลงต่อไปการลงทุนจะทำอย่างไร
สิ่งเหล่านี้มันเคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้วในช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องให้ความสำคัญความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นต้องคำนึงคนทั้งประเทศที่มีมากกว่าเขาเดือดร้อน คนที่ได้รับผล กระทบมีมากกว่า. ต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศ คนส่วนใหญ่ของประเทศด้วยกระทบเขาเดือดร้อนมากความเป็นอยู่อาชีพรายได้ รัฐบาลก็พยายามหา มาตรการในการดูแลอยู่แล้วขณะเดียวกันเราก็ต้องพัฒนาพัฒนาในเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศด้วย ต่างประเทศขาจะเข้ามา. เขาก็ต้องดูเรื่องความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยของเขาที่จะมาลงทุนในประเทศไทย
แต่วันนี้สถานการณ์ มันไม่น่าจะใช้เวลาแต่ผมก็ไม่ขัดข้อง ถ้าจะมีการดำเนินการอะไรกันต่อไป ก็เป็นเรื่องของสภา
เมื่อถามว่าสิ่งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ในการบริหารประเทศของท่านหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ก็นี่ไงทำมาจนถึงวันนี้แล้วก็ต้องบอกสิว่า แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ การที่จะบริหารราชการแผ่นดินมันต้องใช้กฎหมายกฎระเบียบแล้วธรรมนูญ
“ไม่ใช่ว่าใครจะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินนี้. มันไม่ใช่อ่ะมั้ง”
เมื่อถามว่าผู้ชุมนุมอาจจะยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้นเพื่อที่จะกดดันไปทุกที่นายกนให้ลาออกแล้วทำตามข้อเสนอของผู้ชุมนุม พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า มันมีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกันอยู่กี่ข้อกี่ข้อของเขา ก็ไปดูเราก็ต้องไปหารายละเอียดมาบ้างว่า แต่ละอันมันทำได้หรือไม่ได้ ถ้าทำแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นทำอะไร แล้วกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะว่าอย่างไร บางทีถ้ามาถามผมอย่างเดียว ผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันเพราะผมจำเป็นต้องพิจารณาจากหลายหลายมิติ ผมไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร
ที่มา – fb Wassana Nanuam