เรื่องใหญ่สำหรับใครต่อใครที่รักสวยรักงาม กับการลดน้ำหนัก ซึ่งเพจ Fda Thai ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุ “โลกโซเชียลในปัจจุบัน ส่งต่อข้อมูลถึงกันได้ง่าย
และยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามแล้วยิ่งเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจ อีกหนึ่งเรื่องแชร์ที่ส่งต่อกัน คือมีคนแชร์สูตรลดน้ำหนักกันมามากมาย มาดูกันว่าแต่ละสูตรสามารถลดน้ำหนักได้จริง หรือไม่
สูตรที่ 1 แมงลัก ผสมน้ำดื่มก่อนนอน ปกติแล้วเมล็ดแมงลักใช้เป็นยาระบาย โดยการเพิ่มปริมาณอุจจาระ และทำให้อุจจาระอ่อนตัว ช่วยลดอาการท้องผูกหรือมีปัญหาในการขับถ่าย แมงลักไม่สามารถทำให้ไขมันสะสมสลายไปได้ และหากกินมากไป หรือใช้แมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ จะทำให้ เกิดอาการขาดน้ำ และอาจเกิดอาการลำไส้อุดตันได้
สูตรที่ 2 กินผักบุ้ง เพราะมีกากใยอาหารสูง มีพลังงานน้อย ทำให้กินแล้วไม่อ้วน นอกจากนี้ ยังมีผักใบเขียว และผลไม้อื่น ๆ ที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผักโขม แครอท มะละกอ เป็นต้น
สูตรที่ 3 กินโยเกิร์ต นมสด น้ำผึ้ง มะนาว นมสด และมะนาวช่วยในการขับถ่าย หากกินควรใส่น้ำผึ้งไปในปริมาณน้อย เพราะน้ำผึ้งนั้นมีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำตาล ยิ่งกินมากอาจทำให้อ้วนได้
สูตรที่ 4 ดื่มน้ำเปล่า ผสมมะนาว และเกลือ ลดน้ำหนักไม่จริง
มะนาวไม่ได้มีสรรพคุณในการลดน้ำหนัก แต่น้ำมะนาวมีสรรพคุณทางยา คือ ช่วยบรรเทาอาการไอ และขับเสมหะได้ หากกินมะนาวมากเกินไปอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ ส่วนเกลือ มีสรรพคุณทางยาคือ ดับร้อน แก้อาเจียน หากกินเกลือมากไปอาจส่งผลต่อไต และเกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมาได้ จะเห็นได้ว่าทั้งมะนาว และเกลือไม่สามารถนำมาใช้ลดน้ำหนักได้ แต่สูตรนี้ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าทั้ง4 สูตรที่กล่าวมาล้วนเน้นกระตุ้นการขับถ่ายที่พุงยุบเพราะทั้ง 4 สูตรนี้ทำให้การขับถ่ายอุจจาระดีขึ้น ส่วนความรู้สึกตัวเบาหวิว เป็นเพราะร่างกายเสียน้ำ และเกลือแร่ แม้จะรู้สึกว่าได้ผลในการลดน้ำหนักในระยะแรกที่เริ่มกิน แต่ในระยะยาวไม่สามารถลดน้ำหนักได้จริง
ข้อมูลที่แชร์กันมาอาจถูกต้องในบางส่วน แต่อาจไม่ถูกต้องทั้งหมดจึงควรพิจารณาทั้งข้อดี และข้อเสียควบคู่กัน ที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรเชื่อง่ายๆ และไม่แชร์ต่อหากไม่มั่นใจในข้อมูลจริงๆ”
cr : สยามรัฐ
