จ.กำแพงเพชร – เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 2 กันยายน 2563 ร.ต.อ.ปรัชญา ทาบ้านฆ้อง สว.สส.สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้าน 3 ราย ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียว พบร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย ที่เป็นครอบครัวเดียวกัน นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนในห้องนอนบนบ้านชั้นยกสูง สภาพนอนหงายและนอนคว่ำ
ทราบชื่อภายหลังประกอบด้วย นายพยอม ศรีทอง อายุ 59 ปี , นางสำราญ ศรีทอง อายุ 53 ปี และลูกบุญธรรม น.ส.วิภาวรรณ ภูนากเกี้ยว (ไม่ทราบอายุ) ทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน 3 พ่อแม่ลูก
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่า ทั้งหมดถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว (ไม่ทราบขนาด) โดยที่นายพยอม ถูกยิงที่บริเวณลำคอ นอนหงายเสียชีวิต , นางสำราญ ถูกยิงเข้าที่กลางหลัง นอนคว่ำเสียชีวิต และลูกสาวบุญธรรม น.ส.วิภาวรรณ ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก นอนหงายเสียชีวิต โดยศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดนอนเรียงกันบนที่นอนในบ้านหลังดังกล่าว
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องความเครียดเรื่องหนี้สิน เงินทอง ปัญหาชีวิตต่างๆ และหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจปลิดชีพตนเองและครอบครัวทั้งหมด โดยคาดว่านายพยอม ใช้ปืนลูกซองยาวก่อเหตุยิงคนในครอบครัวทั้งหมดก่อนที่ตนเอง จะใช้เท้าเหนี่ยวที่ไกปืน ลูกกระสุนพุ่งเข้าที่บริเวณลำคอเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย
สอบถาม นางทิพวรรณ พุ่มเจริญ อายุ 44 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เล่าว่า ผู้ตายได้ส่งข้อความไปทางไลน์กลุ่มเครือญาติคนในครอบครัวว่า “เรารักกัน” มีข้อความว่า
“ชาตินี้เกิดมาบุญน้อย ลาก่อนพี่น้องทุกคน ที่ผ่านมาขอให้อโหสิกรรมให้กับครอบครัวกระผมด้วย เกิดมาน้อยวาสนา (งานแต่งหลานๆก็ไม่ได้ไป) รักพี่น้องทุกคน ลาก่อน…. ผมมีประกันอยู่ที่พรานกระต่าย 100,000 บาท แดงอยู่บ่อทอง 100,000 บาท ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์”
ทั้งหมดคือข้อความที่ผู้ตายได้ส่งเข้ากลุ่มไลน์ในช่วงเวลา 06.58 น. ของวันที่ 2 กันยายน 2563 จากนั้นตนได้ออกมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ และพบว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยให้เข้ามาตรวจสอบ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด ไปขันสูตรต่อที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะเป็นเรื่องฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตายนั้นจะต้องดูข้อมูลหลักฐานโดยละเอียดทางคดีอีกครั้ง