ฟิลิปปินส์ – เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ช่วงเที่ยงวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 75 คน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย อาบูไซยาฟ และมีมือระเบิดหญิงฆ่าตัวตายร่วมก่อเหตุ
ศูนย์บัญชาการทหารมินดาเนาตะวันตก รายงานคืบหน้าเหตุการณ์ระเบิด 2 ครั้งซ้อนที่เกิดขึ้นในเมืองโฮโล จังหวัดซูลูเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ว่า เหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นใกล้กับพาราไดซ์ ฟู้ด พลาซ่า บนถนนเซอร์รันเตสในเมืองโฮโลเมื่อเวลาราว 11.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น ต่อมาเกิดเหตุระเบิดครั้งที่สองใกล้กับธนาคารแห่งหนึ่งบนถนนเส้นเดียวกันและอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตรในเวลา 13.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น
เหตุระเบิดทั้งสองครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งรวมถึงทหาร 7 นาย พลเรือน 6 รายตำรวจ 1 นาย และมือระเบิดฆ่าตัวตาย 1 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 75 คน ได้แก่ พลเรือน 48 คน ทหาร 21นาย และตำรวจ 6 นาย
นอกจากนี้จากการเปิดเผยของฝ่ายกองทัพ ระบุว่า ระเบิดลูกแรกถูกซ่อนไว้ในรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ ส่วนระเบิดลูกที่สองเชื่อว่า เป็นเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโดยมือระเบิดเป็นผู้หญิง
แม้ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ แต่กองทัพเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย “อาบูไซยาฟ” ภายใต้การนำของมุนดี ซาวัดจาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกองทัพเปิดเผยว่า ซาวัดจานวางแผนก่อเหตุระเบิดในจังหวัดซูลู โดยจะใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายหญิง 2 คน และทหารปฏิบัติการอย่างลับๆเพื่อล่าตัวนายซาวัดจาน และมือระเบิดเมื่อเดือนมิ.ย. แต่ถูกตำรวจที่ด่านตรวจยิงด้วยความเข้าใจผิดและมีทหารเสียชีวิต 4 นาย
นอกจากนี้กองทัพไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่า เหตุระเบิดในวันนี้อาจเป็นการตอบโต้ที่อับดุลยิฮัด ซูซูกัน ผู้บัญชาการกองกำลังอาบูไซยาฟ ถูกจับกุมตัวเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
กลุ่มอาบูไซยาฟเป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง และถูกขึ้นบัญชีดำเป็นกลุ่มก่อการร้ายโดยรัฐบาลฟิลิปปินส์และสหรัฐ เนื่องจากก่อเหตุระเบิด ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ และฆ่าตัดคอตัวประกันหลายครั้ง