ปัตตานี ล่าสุดคนร้ายระดับผู้ก่อความรุนแรง และแกนนำปฏิบัติการ ถูกเด็ดชีพไปแล้ว 4 ศพ ยังเหลือรอดคนเดียว
…. เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 สค.ที่ทำการทางยุทธวิธี หมู่ 2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานีใกล้จุดเกิดเหตุปิดล้อมและเกิดการปะทะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า พร้อมประชุมปรับแผนการปฏิบัติและเปิดเผยความคืบหน้าผลตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่เสียชีวิตและผลอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ โดยมี พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี และ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.ปัตตานี ร่วมการประชุมปรับแผนการปฏิบัติ ตลอดจนให้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างและกำลังพลร่วม 3 ฝ่าย เข้ามาสับเปลี่ยนกำลังในกรณีการปิดล้อมยืดเยื้อเข้าวันที่ 3
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีเสียงปืนปะทะระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่เป็นรอบที่4 โดยพบเห็น 2 คนร้ายที่หลบซ่อนยังที่กำบังบริเวณคันนาป่าละเมาะ ยังคงมีความพยายามใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อหวังตีฝ่าวงล้อมหลบหนี แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังคงยึดทางยุทธวิธีกดดันจากเบาไปหาหนัก ควบคู่การเจรจาให้คนร้ายมอบตัวแต่ก็ยังไม่เป็นผล การปะทะเป็นไปอย่างดุเดือด เจ้าหน้าที่ต้องใช้ระเบิดยิงใส่เพื่อให้เกิดเสียงดัง เพื่อให้คนร้ายออกมามอบตัว ล่าสุดเมื่อเสียงปืนสงบ ชุดปฏิบัติการณ์ได้นำเครื่องร่อนตรวจทางอากาศเข้าไปตรวจสอบจุดปะทะของคนร้าย ปรากฏว่าพบคนร้าย 2 คน สวมเสื้อสีดำแขนยาว นอนแน่นิ่งในสถาพกอดอาวุธปืนสงคราม คาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไป เนื่องจากยังเหลือคนร้ายอีก 1 คนที่ยังหลบซ่อนตัวพร้อมอาวุธสงคราม อย่างไรก็ตามขณะนี้คนร้ายได้เสียชีวิตจากเหตุปะทะรวมแล้ว 4 ราย
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้เปิดเผยถึงผลคืบหน้าคดีเหตุปะทะในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานีว่า คนร้ายถูกวิสามัญไป 2 ราย ยืนยันคือ นายอันวากอแล อายุ 31 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมาย และเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงคนสำคัญในพื้นที่ และ นายมะซูกี สารูเม๊าะอายุ 38 ปี เป็นแกนนำระดับสั่งการคนสำคัญในพื้นที่และมีหมายจับ ป.วิ อาญา 2 หมาย ตลอดจนพบความเชื่อมโยงมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญทั้งเหตุระเบิดนางเงือกที่หาดสมิหลา จ.สงขลา เหตุโจมตีชุด อส.ในพื้นที่ยะรังและยังก่อเหตุโจมตีหน้าโรงพักนาประดู่ จ.ปัตตานี ซึ่งยังเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ อีกหลายคดี
สำหรับอาวุธที่ตรวจยึดได้ ประกอบด้วย อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอกปืนเล็กยาวเอ็ม 16 ของคนร้ายจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 ตรวจสอบเพื่อขยายผล ซึ่งผลน่าทราบได้ในช่วงบ่ายของวันนี้
ปะทะระลอก 5 ยืนยันแล้วคนร้ายตายเพิ่ม 2 ระดมผู้นำเจรจากล่อมอีก 1 ที่ยังเหิมปะทะต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 สค. เจ้าหน้าที่ยังคงกระชับวงล้อมเข้าพื้นที่ หวังเจรจาให้คนร้ายมอบตัว เพื่อลดความสูญเสีย โดยได้เชิญกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาร่วมเจรจา ตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายยังคงยิงออกมา และเกิดการปะทะ เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการจากเบาไปหนัก แต่คนร้ายยังตอบโต้เป็นระยะ
จนกระทั่ง เมื่อเวลา 18.15 น. ยังคงมีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกระลอกเป็นครั้งที่ 5 ใช้เวลากว่า 10 นาที เจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนเข้าโอบล้อมขนาบข้าง เพื่อกระชับพื้นที่ให้ใกล้จุดปะทะ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ทราบ กระทั่งพบคนร้ายเสียชีวิต จำนวน 2 นาย จากการตรวจสอบทราบชื่อเพียง 1 ราย คือ นายมาสุวัน กะจิ อายุ 33 ปี รวมกับเมื่อวานนี้เป็น 4 ราย ยังเหลือคนร้ายอีก 1 คน ซึ่งยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ยังคงปิดล้อมและยังไม่จบภารกิจ
ทั้งนี้ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท หากยังยืดเยื้อเป็นวันที่ 3 ก็ให้มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์ส่องแสงและกำลังพลสับเปลี่ยน โดยหวังใช้การเจรจาผ่านผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน เพื่อไม่ให้มีการสูญเสีย..
