สำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ ชิคุนกุนยา ทางห้องปฏิบัติการนั้น มีทั้งการตรวจเพื่อค้นหาเชื้อไวรัสด้วยวิธีปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับ (RT-PCR)
และวิธีการเพาะเชื้อจุลินทรีย์เพื่อแยกไวรัสออกจากเลือด (Immunochromatography) ซึ่งจะมีภูมิคุ้มกัน (Chikungunya IgM Antibody) สูงสุดในช่วง 3-5 สัปดาห์หลังจากเริ่มมีอาการ และคงอยู่ต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน
ทั้งนี้ การตรวจด้วยวิธี RT-PCR สามารถใช้เพื่อตรวจยีนชิคุนกุนยาในเลือดได้ ควรตรวจภายในสัปดาห์แรกของโรค และใช้เวลา 1-2 วันจึงจะทราบผล ส่วนการตรวจหา Chikungunya IgM Antibody นั้นโดยปกติร่างการจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันหลังจากมีอาการประมาณ 1 สัปดาห์ แนะนำให้ตรวจครั้งที่ 1 ในวันที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา และตรวจอีกครั้งหลังจากเริ่มมีไข้ 14-25 วัน
คำแนะนำเพื่อป้องกันและรักษาตัวเพื่อไม่ให้มีการเกิดโรคชิคุนกุนยาคือ หลีกเลี่ยงการไม่ถูกยุงลายกัด ด้วยการทำความสะอาดบ้าน ทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุง ไม่ให้มีน้ำท่วมขังภายในบริเวณบ้าน หรือ ปลูกต้นไม้จัดสวน ให้โล่ง แสงแดดส่อง
ใส่เสื้อผ้าแต่งกายให้เหมาะสม ไม่อยู่ในที่รก ทึบ แม้โรคชิคุนกุนยา จะร้ายแรงน้อยกว่า ไข้เลือดออก แต่ การเจ็บป่วยส่งผลเสียกับร่างกาย จึงควรรักษาสุขภาพเบื้องต้นให้แข็งแรง
ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) มีบริการตรวจวินิจฉัยโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ ชิคุนกุนยา สำหรับโรงพยาบาลทั่วไป
โดยการตรวจหาสารพันธุกรรมด้วยวิธี RT-PCR และตรวจหาจากภูมิคุ้มกันด้วยวิธี Immunochromatography สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ @Nhealth โทร. 02 7624000 หรือ email: nhcslab@nhealth-asia.com
Cr : Naewna