เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว นายสมศักดิ์ บ่อกลาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว นำลูกบ้านจำนวนเกือบ 20 ราย เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ ประกอบด้วย นางนิภาพร วงษ์คำจันทร์ ,นายมานพ บุญชู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ม.8 ต.หนองหว้า , นางพยงค์ ทองไทย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.8 ต.หนองหว้า , นางกุ้ง สบายกาย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ม.8 ต.หนองหว้า กับพวกรวม 12 คน
มาแจ้งความร้องทุกข์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีตรวจพบว่า ในบัญชีมียอดหนี้เงินกู้ที่กู้ไปจากธนาคาร ธกส.สาขาเขาฉกรรจ์ เกินกว่าที่กู้ไปจริง โดยมี พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ลงมาอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านด้วย
ทั้งนี้ ชาวบ้านให้การว่า พนักงานฝ่ายสินเชื่อของ ธกส.ได้กระทำความผิด โดยผู้เสียหายที่เป็นเกษตรกรแต่ละรายที่ได้กู้เงินจาก ธกส.จากนั้นได้นำส่งเงินต้นแต่ละงวดพร้อมดอกเบี้ยให้กับ นายศิวพล เผือกพูลผล พนักงานพัฒนาธุรกิจ 6 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเพื่อชำระหนี้ให้กับธนาคารมาโดยตลอด
แต่ต่อมาทราบว่า ในช่วงภาวะวิกฤตโควิด 19 ทางธนาคารได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถกู้เงินฉุกเฉินได้ ผู้เสียหายแต่ละรายจึงได้นำเอกสารการเป็นสมาชิกไปยื่นขอกู้เงินและเมื่อธนาคารตรวจสอบ ปรากฎว่า ยอดหนี้เดิมที่กู้ไปจากธนาคารไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือไม่มีการชำระหนี้ บางรายมีการชำระเฉพาะดอกเบี้ยหรือเงินต้นบางส่วนเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิกู้เงินดังกล่าวได้
เบื้องต้น ชาวบ้านเชื่อว่า นายศิวพล ไม่ได้นำเงินที่ผู้เสียหายฝากไว้ชำระดังกล่าว ไปเข้าบัญชีเพื่อชำระหนี้ให้กับผู้เสียหาย ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหาย เป็นเงินคนละประมาณ 50,000-150,000 บาท รวมทั้งสิ้นเบื้องต้น ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบกับธนาคารเพื่อดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์หรือฉ้อโกงต่อไป มี ร.ต.อ.เสน่ห์ เดชสุภา ร้อยเวร สภ.เขาฉกรรจ์ เป็นผู้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ โดยเชื่อว่า จะมีผู้เสียหายลักษณะเดียวกันเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก
นายมานพ บุญชู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 ม.8 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเป็นสมาชิก ธกส.ก็กู้เงิน 50,000 บาท แรกก่อน ผ่านมา 5 เดือน ต้องการใช้เงินลงทุนเพิ่ม จึงทำเรื่องเพื่อนำเงินต้น 5 หมื่นบาทไปส่งพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะบอกตลอดว่า ต้องนำทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยมาส่ง มิฉะนั้นจะกู้เพิ่มไม่ได้ เมื่อคืนเงิน 5 หมื่นบาทไปแล้วก็ทำเรื่องกู้มาใหม่ 100,000 บาท ต่อมาก็จะมาทำเรื่องขอกู้เพิ่มอีก 200,000 บาท
โดยนำเงินต้นเดิม 1 แสนบาทพร้อมดอกเบี้ยไปชำระผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่ปรากฏว่า เมื่อวานนี้ไปเช็กยอด ข้อมูลเงินที่เรากู้มาเกินกว่าที่เรากู้จริง ซึ่งยอดเก่า 2 สัญญาแรก 5 หมื่นบาทและ 1 แสนบาท ไม่ได้มีการชำระเลย ขณะที่ความจริงส่งคืนทั้งต้นและดอกไปแล้ว กลายเป็นว่า เราเป็นหนี้ถึง 349,996 บาท มีชำระเพียงแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ซึ่งเงินต้นพนักงานยักยอกเอาไป จึงอยากให้มีการชดใช้และรับผิดชอบเงินส่วนที่ยักยอกไป ขณะนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านเหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าโดนยักยอกเงินอีกเป็นจำนวนมาก
นายสมศักดิ์ บ่อกลาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว กล่าวว่า อยากให้ธนาคารช่วยรับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารเป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อความเสียหายเกิดแล้ว ทางธนาคารจะต้องดำเนินการ เพราะประชาชนไม่มีปัญญาที่จะไปหาเงินมาใช้หนี้ได้มากมายขนาดนี้ อยากให้ธนาคารและผู้ที่ก่อเหตุเรื่องนี้ ได้ช่วยกันดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
ขณะที่ นางกุ้ง สบายกาย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ม.8 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ผู้เสียหายอีกราย กล่าวด้วยว่า กรณีลักษณะนี้ถ้าลูกค้าบางรายไม่จ่ายดอกเบี้ย ทำไมถึงกู้ได้ ระบบธนาคารเป็นอย่างไร หากรัฐบาลไม่ประกาศจะช่วยโดยการให้เกษตรกรสามารถกู้เงินฉุกเฉินมาใช้จ่ายช่วงโควิดได้ เราก็ไม่รู้ว่าถูกยักยอกเงินไป
เพราะปกติเวลาที่ครบกำหนดชำระเงิน ชาวบ้านก็จะไปพบเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ แล้วก็จ่ายผ่านพนักงานเลย ซึ่งตนเองเคยถามว่า “ใช้คืนเงินต้นต้องส่งเงินตรงนี้หรือ” ซึ่งพนักงานบอกว่า “เงินต้นต้องเอาไว้ที่ผม เดี๋ยวผมจะเอาไปเข้าบัญชีให้เอง” แต่กลายเป็นว่า ไม่ได้เอาเงินไปจ่ายชำระเงินกู้เลย ทำให้ยอดเก่ายังอยู่เหมือนเดิม เหมือนเราไม่ได้ใช้หนี้อะไรเลย
ทางด้าน นายประสงค์ ประดิษฐ์ทรัพย์ ผู้จัดการ ธกส.สาขาเขาฉกรรจ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาส่อทุจริตดังกล่าว โดยส่งเรื่องรายงานไปที่จังหวัดรับทราบแล้ว ซึ่งการชดใช้ส่วนหนี้จะต้องให้ผู้ที่กระทำความผิดชดใช้ และเมื่อผลการตรวจสอบพบว่า
เจ้าหน้าที่กระทำผิดจริง จะต้องมีการไล่ออกทันที สำหรับขณะนี้ นายศิวพล เผือกพูลผล พนักงานพัฒนาธุรกิจ 6 ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินของเกษตรกร ปัจจุบันย้ายไปประจำที่ ธกส.สาขาสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว และเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจสอบเกษตรกรทั้งพื้นที่ ต.หนองหว้า จำนวน 500-600 รายด้วยว่า พบปัญหาดังกล่าวด้วยหรือไม่
