นายกิตติชัย ใสสะอาด ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กล่าวถึงกรณีประชาชาค่าไฟแพงขึ้นในช่วงกักตัวสถานการณ์โควิด-19 ว่า การที่ค่าไฟแพงนั้นเนื่องจากเดือนมีนาคม เมษายน เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำงานหนักเพราะอากาศร้อน ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น ส่วนการกำหนดค่าไฟที่แพงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่มีคณะกรรมการกิจการพลังงานเป็นผู้กำหนดและกำกับดูแลในการคิดค่าไฟ
ทั้งนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องจ่ายเงินให้กับรัฐบาลทุกไตรมาส รวมปีละ 14,000 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่รายได้ลดลงกว่า 2 หมื่นล้านบาท ตามนโยบายของรัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการยืดอัตราการจ่ายบิลโดยหนึ่งบิลสามารถชำระได้ภายใน 6 เดือน และการปรับลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ร้อยละ 20 จึงอยากสอบถามว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังจำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับรัฐบาลเต็มวงเงินเดิมหรือไม่ หรือปรับลดลงตามรายได้
วันนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง กำลังประสบปัญหาจากมาตรการดังกล่าวของรัฐ ทางสหภาพเกรงว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนครหลวงจะประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง โดยคาดว่าจะมีปัญหาในเดือนกรกฎาคมนี้ จึงอยากขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ เพราะทางสหภาพฯ ไม่อยากให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกับการบินไทย หรือรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังเรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับหลักเกณฑ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจากเดิมที่รัฐบาลผลิตแค่ 33% เอกชนผลิต 57% โดยขอให้รัฐบาลปรับเพิ่มอัตราการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 51% หากสามารถทำได้จะทำให้อัตราค่าไฟถูกลงและประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่ถูกขึ้น