หลวงปู่ประ อคฺคธมโม จอมขมังเวทย์แห่งวัดภูเขาดิน ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช

8356
views
หลวงปู่ประ อคฺคธมโม

หลวงปู่ประ อคฺคธมฺโม จอมขมังเวทย์แห่งวัดภูเขาดิน ศิษย์เอก “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์” พระเถระที่มีอายุยืนยาวท่านหนึ่งแห่งเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยท่านอายุถึง ๑๑๖ ปี

“ หลวงปู่ประ ” เดิมชื่อนายประ รักษายศ เกิดวันจันทร์ ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๔๑ พื้นเพเดิมเป็นชาว ตำบลกุแหระ อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช บิดาชื่อนายกล่อม รักษายศ มารดาชื่อนางท้าว รักษายศ เป็นบุตรคนสุดท้อง มีพี่สาว ๒ คน หลวงปู่ประเป็นลูกชายคนเดียวเมื่ออายุได้ ๑๖ ปี หลวงปู่ประได้เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสวนขันและได้ศึกษาเล่าเรียน กับพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์เนื่องจากสามเณรประเป็นเด็กขยันหมั่นเพียร สมองดี และใฝ่รู้ในพระพุทธศาสนาจึงเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ถึงกับเอ่ยว่า “ให้อยู่ในร่มกาสาวพักตร์เถิด ต่อไปในภายหน้าเจ้าจะเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป”

จนเมื่อครบอายุอุปสมบทสามเณรประจึงไม่รอช้าได้อุปสมบทบวชเป็นพระทันที ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดร่ำเรียนวิชาวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมกับพ่อท่านคล้ายมาโดยตลอด จนกระทั่งอายุ ๓๐ ปี มารดาได้มาขอให้หลวงปู่ประลาสิกขาบทเนื่องด้วยทางบ้านลำบากไม่มีคนช่วยงาน ท่านจึงต้องลาสิกขาบทออกมาช่วยงานมารดา หลวงปู่ประได้เข้าไปกราบพ่อท่านคล้าย โดยพ่อท่านคล้ายเอ่ยว่า “ไปทำหน้าที่ของท่านเถิด เมื่อถึงเวลาท่านจะกลับเข้ามาอยู่ในร่มกาสาวพักตร์เอง” โดยที่หลวงปู่ประยังไม่ได้กล่าวอะไรทั้งสิ้น เมื่ออยู่ในฆราวาสหลวงปู่ประยังเล่าเรียนวิชาอาคมกับพ่อท่านคล้าย โดยได้ไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำและยังได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมสำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง และยังเคยร่ำเรียนวิชาอาคมกับพ่อท่านเอียดดำ วัดอ้ายเขียว จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นที่ยอมรับของชาว อ.ทุ่งใหญ่

หลวงปู่ประ อคฺคธมโม

สมัยนั้นใน อ.ทุ่งใหญ่ โจรป่าและโจรไม่รู้สัญชาติเยอะมากเข้ามาปล้น ฆ่า เรียกค่าไถ่ หลวงปู่ประจึงขันอาสาเข้าไปปราบปราม โดยมีอาวุธเพียงมีด ๑ เล่มเท่านั้นเพียงชั่วข้ามคืนโจรก็ได้ล่าถอยหนีหายไป จนไม่มีโจรป่าหน้าไหนย่างกลายเข้ามาอีกเลย ชาวบ้านจึงยอมรับและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ใหญ่บ้าน และขนานนามว่าผู้ใหญ่ประจอมขมังเวทย์ หลวงปู่ประดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านจนกระทั่งเกษียณ ครั้นเมื่อเกษียณแล้วหลวงปู่ประจึงไม่รีรอที่จะกลับเข้ามาสู่ร่มกาสาวพักตร์อีกครั้ง

โดยก่อนที่จะอุปสมบทอีกครั้งหลวงปู่ประ ได้นั่งชาญวิปัสสนาและในชาญวิปัสสนานั้น หลวงปู่ประได้พบกับพระรูปหนึ่งซึ่งมีอายุมากหลวงปู่ประเข้าไปกราบนมัสการ แล้วถามว่าหลวงพ่อชื่ออะไรครับ พระรูปนั้นก็หันหน้ามามีเสียงดังก้องโดยที่ปากท่านไม่ได้ขยับมีเสียงเปล่ง ออกมาว่าฉันชื่อสามีราโม แต่ชาวบ้านเรียกเราว่า “พ่อทวด” แล้วพ่อรูปนั้นก็เอ่ยว่าเราขออนุโมทนาด้วยที่ท่านจะมาถะนุบำรุงพระพุทธศาสนา หลวงปู่ประจึงก้มกราบเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพระรูปนั้นได้หายไปแล้วหลวงปู่ประจึงออกจากสมาธิแล้วก้มกราบไปทางทิศวัดช้างไห้ เช้าวันรุ่งขึ้นหลวงปู่จึงไม่รอช้ารีบไปหาพ่อท่านคล้าย

เมื่อเจอพ่อท่านคล้ายหลวงปู่ประก้มกราบพ่อท่านคล้ายยังไม่ทันจะเอ่ยอะไร พ่อท่านคล้ายก็เอ่ยขึ้นมาว่า เมื่อคืนพ่อทวดมาหาใช่มั้ย เราก็ขออนุโมทนาบุญเช่นกัน แต่โยมประต้องไปบวชที่ทุ่งใหญ่ วัดคู่บุญรอโยมประอยู่ หลวงปู่ประจึงถามว่าวัดไหนครับหลวงพ่อ…พ่อท่านคล้ายบอกว่าไปเถอะแล้วโยมจะรู้เองหลวงปู่ประจึงได้กราบลาพ่อท่านคล้ายกลับไปที่ อ.ทุ่งใหญ่

พอถึงหน้าวัดภูเขาหลัก พ่อท่านแดงเจ้าอาวาสวัดภูเขาหลักยืนรออยู่แล้ว พ่อท่านแดงได้เอ่ยว่าโยมประเราเตรียมเครื่องไตรจีวรไว้ให้โยมเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ประถึงกับงง แต่ก็รับไตรจีวรจากพ่อท่านแดงโดยไม่รอช้าเข้ารับการ อุปสมบททันที ซึ่งมีพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวดและพระนั่งลำดับรออยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง พระอุปัชฌาย์คือ หลวงพ่อแดง วัดภูเขาหลัก พระกรรมวาจาจารย์คือ หลวงพ่อนาถ วัดควนสระบัว

วัดภูเขาดิน ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช

เมื่อหลวงปู่ประอุปสมบทได้ ๗ วันก็ได้นิมิตเห็นภูเขาลูกหนึ่งทั้ง ๗ วัน “จึงได้ไปกราบพ่อท่านแดง พ่อท่านแดงจึงบอกว่าเรารู้แล้วว่าท่านต้องไปอยู่วัดนั้นไปเถิดที่นั่นเป็น วัดคู่บุญของท่าน” หลวงปู่ประจึงได้กราบลาพ่อท่านแดงไปจำพรรษาที่วัดภูเขาดินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ด้านการปฏิบัติธรรมท่านปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดทำวัตรเช้าวัตรเย็นไม่เคยขาดถึงแม้ท่านจะอายุมากแล้วก็ตาม ด้านสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยแม้แต่น้อย เคยมีชาวบ้านไปกราบพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พ่อท่านคล้ายบอกว่าเธออยู่ทุ่งใหญ่ทำไมมากราบเราถึงที่นี้ ที่ทุ่งใหญ่ก็มีพระดี มีวิชาวาจาสิทธิ์อยู่ที่นั้นทำไมไม่ไปกราบ ชาวบ้านจึงถามว่าใครหรือครับ พ่อท่านคล้ายบอกว่าหลวงพ่อประ วัดภูเขาดิน”

หลวงปู่ประ อคฺคธมโม ได้มรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา ๑๗.๐๕ น. วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ภายในกุฏิวัดภูเขาดิน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยโรคชรา หลังนอนอาพาธพักรักษาตัวด้วยเครื่องช่วยหายใจมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ โดยมีลูกศิษย์ลูกหาคอยเฝ้าดูแลปรนนิบัติด้วยความเป็นห่วงอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด สิริรวมอายุ ๑๑๖ ปี ๕ เดือน ๕๖ พรรษา

ข้อมูล – พุทธาคม ปาฏิหาริย์อำนาจบุญ อริยะเหนือโลก

  ถมนคร เครื่องถมเมืองนคร