เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เวลา 18.00 น. เกิดเหตุการณ์ระทึกขึ้นกลางเมืองสงขลา เมื่อมีรถเก๋งหมายเลขทะเบียน กษ 115 สงขลา ได้ขับหนีการตรวจค้นของตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ ซึ่งเป็นสายตรวจรถจักรยานยนต์ของฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสงขลา
นำโดย พ.ต.ท.ชัชวาล ผูกพันธ์ สารวัตรป้องกันปราบปราม โดยรถยนต์คันดังกล่าวขับมาในลักษณะต้องสงสัย จึงเรียกตรวจค้นและเร่งเครื่องหลบหนีและเฉี่ยวชนตำรวจ 1 นายแต่กระโดดหลบทัน
จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับซิ่งหนีตำรวจอย่างรวดเร็วและเฉี่ยวชนกับรถของชาวบ้านเสียหาย 11 คัน ทั้งรถกระบะ รถเก๋ง รถบรรทุก6 ล้อ และรถจักรยานยนต์ ทั้งที่ขับอยู่บนถนนและจอดติดไฟแดง ก่อนที่รถคันนี้จะเลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกเก้าเส้ง และขับหลบหนีเข้าไปในซอย2 ถนนเก้าเส้ง
โดยมีตำรวจสายตรวจชุดอินทรีย์ ขับรถไล่ล่าแบบเกาะติด จนกระทั่งรถคนร้ายไปจนมุมบริเวณปาซอย2 ถนนสงขลา-นาทวี เนื่องจากตำรวจได้ใช้รถยนต์ปิดปากซอยเอาไว้ และใช้ยุทธวิธียิงสกัดยางรถบริเวณจุดที่ปลอดภัยไม่มีประชาชนสัญจรไปมาหรืออยู่รอบข้าง รถคนร้ายจึงจนมุม และตำรวจได้เข้าควบคุมตัวคนขับเอาไว้ได้ทราบชื่อ นายนทีธร แก้วมณี อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ต.พะวง อ.เมืองสงขลา
จากการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า 2 เม็ดและไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง พร้อมเงินสดกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นแบงค์ย่อยทั้งหมด และควบคุมตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองสงขลา เบื้องต้น นายนทีธร ให้การว่า สาเหตุที่ขับรถแหกจุดตรวจเพราะกลัวจะถูกตำรวจตรวจค้นเนื่องจากในตัวมียาบ้า 2 เม็ดและไอซ์ด้วย และไม่อยากถูกจับจึงตัดสินใจขับแหกจุดตรวจและหนีสุดชีวิตแต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น
จากการตรวจสอบประวัติ นายนทีธร พบว่ามีคดีติดตัวถึง 3 คดีของสภ.เมืองสงขลา และล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีทั้งคดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปี54 คดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปี 60 คดีครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท5 (กระท่อม) ไม่ถึง 10 กิโลกรัม และน้องชายยังติดคุกอยู่ในเรือนจำจ.สงขลาในคดียาเสพติดด้วย
หลังเกิดเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบสวนและได้แจ้งดำเนินคดี 7 ข้อหาฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง ทั้งยาเสพติด ทำให้เสียทรัพย์ ขับรถโดยประมาท และอาจโดนข้อหาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถที่ถูกเฉี่ยวชนทุกคันก็ทยอยเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสงขลา แล้ว.