สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทะเลคงได้เฮไปตามๆกัน เมื่อล่าสุดมีงานวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์เผยว่า การท่องเที่ยวทะเล เป็นประโยชน์ต่อทั้งจิตใจและร่างกาย แถมยังสามารถบรรเทาอาการซึมเศร้าซึ่งเป็นโรคยอดฮิตที่กำลังมาแรงในสังคมไทยเวลานี้ได้อีกด้วย
มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย British Columbia ศึกษาผลกระทบของสีฟ้าและสีแดงที่มีต่อคนจำนวน 600 คน พบว่าสีฟ้าของน้ำทะเล และท้องฟ้า ที่กว้างไกลมองไปได้สุดลูกหูลูกตา ช่วยให้จิตใจรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและมีสมาธิ ถ้ารู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อย เครียดมาทั้งปี มาทะเลสิ ช่วยได้!
William Dorfman ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Nova Southeastern บอกว่าเสียงคลื่นกระทบฝั่ง เสียงน้ำทะเล ช่วยให้สมองผ่อนคลายและไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีดีๆ อย่างเซโรโทนินที่ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า และทำให้หลับสบาย สารแห่งความสุขอย่างโดปามีนก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ฝ่าเท้าเป็นจุดรวมเส้นประสาทของร่างกาย เพราะฉะนั้นการที่เราถอดรองเท้า เดินเท้าเปล่าย่ำไปบนพื้นทราย คล้ายกับการนวดฝ่าเท้าเบาๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทต่างๆ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ที่สำคัญการเดินบนทรายต้องใช้แรงมากกว่าพื้นปกติ เลยทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น และในพื้นทรายยังเต็มไปด้วยประจุไฟฟ้า ที่เป็นไอออนประจุไฟฟ้าลบ ซึ่งเป็นแหล่งของสารต้อต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์
มหาวิทยาลัยมิลานศึกษาเรื่องอุณหภูมิ อากาศและการรักษาโรค พบว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลมีการระบายอากาศที่ดีมากๆ ที่สำคัญมีการปล่อยรังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ รังสียูวี (UV) ออกมาตลอดทั้งปี ถ้าร่างกายได้รับในปริมาณที่พอดี ก็จะไปช่วยในส่วนของระบบทางเดือนหายใจ โรคภูมิแพ้ รวมไปถึงบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้า
อย่างที่รู้กันดีว่าแสงแดดจากพระอาทิตย์ปล่อยวิตามินดีที่ดีสมชื่อค่ะ เพราะว่าช่วยสร้างเสริมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกแข็งแรง และช่วยเสริมการทำงานของหัวใจ ปอดและสมอง แต่สำหรับแดดทะเลไทยแนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่พระอาทิตย์เพิ่งขึ้นไปจนถึง 9 โมงเช้า อีกทีก็ช่วงบ่ายแก่ๆ และที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยล่ะ ไม่งั้นผิวอาจจะไหม้แล้วก็ได้โรคผิวหนังมาแทน
ขอบคุณที่มา : Dek-D