สุรินทร์ – ชาวบ้านรวมตัวให้กำลังใจสาวถูกจับปลูกกัญชา1ต้นรักษาโรคเก๊าท์ ส.ส.ภูมิใจไทยร่วมทำความเข้าใจไม่อยากให้เรื่องบานปลายติงควรใช้หลักรัฐศาสตร์ในการดำเนินดคีเรื่องนี้
posttoday รายงานว่ากรณีเมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.สุดา หรือ ตูน ศรีนาจนาจา อายุ 32 ปี พร้อมกัญชา 1 ต้น ความสูง 50 ซ.ม. โดยกล่าวหาว่า ผลิตและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่น.ส.สุดา รับว่าได้ปลูกต้นกัญชาเอาไว้จริง เพื่อเอาไว้รักษาโรค
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่ง ร.ต.อ.ศักดิ์เทพ รุจิยาปนนท์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.เทนมีย์ ดำเนินคดีในข้อหา ผลิตและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อตรวจปัสสาวะของน.ส.สุดา เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย(กัญชา)แต่อย่างใด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 ที่ สภ.เทนมีย์ ได้มีชาวบ้านและญาติของ น.ส.สุดา กว่า 40 คน พร้อมกำนัน ตำบลสำโรง ผู้ใหญ่บ้านตะเกียด และประธานสภา อบต.สำโรงไปเยี่ยมและให้กำลังใจ น.ส.สุดาชาวบ้านเห็นว่าการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะน.ส.สุดา ปลูกพืชชนิดนี้ไว้รักษาโรคเก๊าท์ และโรคภูมิแพ้ ที่ใช้บำบัดมาตลอด ด้านชุดจับกุมชี้แจงมีคนแจ้งมาต้องทำตามหน้าที่
ขณะเดียวกัน นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.สุรินทร์ ก็ได้เข้ามาร่วมรับฟังและทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า ตอนนี้กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ ยังไม่มีการปลดล็อกให้ปลูกได้โดยเสรี หากปลูกหรือมีไว้ในครอบครอง ก็จะมีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถจับดำเนินคดีได้
ขณะนี้ทางพรรคภูมิใจไทยกำลังเร่งแก้กฎหมายเพื่อให้ ชาวบ้านสามารถปลูกไว้ใช้รักษาโรคต่างๆได้ ไม่เกินครัวเรือนละ 5-6 ต้น แต่ทั้งนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการจับกุม โดยใช้หลักรัฐศาสตร์ร่วมด้วย และไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข้อบาดหมางระหว่าง ตำรวจกับประชาชนในพื้นที่ สิ่งไหนที่ไม่หนักหนา เกินกว่าเหตุ ก็ให้ใช้ดุลพินิจ ซึ่งหากว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคงจะแค่ว่ากล่าวตักเตือน เพราะต้นกัญชาที่พบแค่ต้นเดียว มีความสูงเพียง 50 ซ.ม.เท่านั้น
หลังจากนั้น ชาวบ้านและญาติของ น.ส.สุดาได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดสุรินทร์เพื่อขอประกันตัว ในวงเงิน 1 แสนบาท ต่อไป
