กระบี่ – รองนายกฯ ประวิตร คุยโว นโยบาย บี 10 ทำราคาผลปาล์ม พุ่ง 8 บาท ด้าน ส.ส.ปชป.ดักคอ ราคาผลปาล์มแพง เหตุเพราะปาล์มเกษตรกรไม่มีลูก พร้อมเรียกร้องให้มีการติดมิเตอร์สต๊อกปาล์มทุกโรงงานงาน ป้องกันน้ำมันเถื่อนทะลัก
ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันนี้ ( 29 ม.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการเป็นประธานเปิดเวที เสวนา เรื่อง “B10 น้ำมันบนดิน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” สร้างสมดุลปาล์มน้ำมัน สู่ความยั่งยืน จัดขึ้น ณ ลานพระอาทิตย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โดยมี พ.ต.ท.หมอมหลงกิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ให้การต้อนรับ ว่า บี10 เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพให้กับราคาพืชผลการเกษตร เพราะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆ ในนโยบายของรัฐบาล
ในการแถลงต่อรัฐสภาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 รัฐบาลได้กำชับไปให้ทุกกระทรวงเร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรและรายได้ของเกษตรกร ซึ่งต้องมีมาตรการที่เหมาะสม รวมถึงมีตลาดให้กับผลผลิตที่เกิดขึ้นในแต่ละฤดูกาล ให้สามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้ประกอบการแปรรูปและผู้บริโภค ราคาปาล์มไม่มีเสถียรภาพมาหลายปี รัฐบาลติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่ที่ราคาอยู่ที่ 2 บาท ผลผลิตล้นตลาด และตอนนี้ราคาพุ่งถึง 8 บาท ปัจจัยหนึ่งมาจากดำเนินนโยบายของรัฐบาล
ได้เปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการบริหารพลังงานในประเทศจากที่เคยเป็นเรื่องของความมั่นคง มาสู่การใช้พลังงาน แก้โจทย์พืชผลเกษตรตกต่ำ ดูแลพี่น้องเกษตรกร และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ปัจจุบันเทรนด์พลังงานโลกเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยโชคดีมี “พลังงานบนดิน” คือ ปาล์มน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์เรื่องนี้โดยตรง นอกจากเสริมศักยภาพด้านพลังงานของไทยแล้ว และยังให้ผลพลอยได้อื่นๆ อีก เช่น การดูแลเรื่องรายได้พี่น้องเกษตรกร แก้โจทย์ผลผลิตปาล์มล้นตลาด และช่วยลดมลภาวะทางอากาศ PM 2.5
ประกอบกับกระทรวงพลังงานได้บังคับใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ทำให้เกิดการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบถึง 2 ใน 3 สร้างเสถียรภาพให้กับราคาปาล์มดิบ เกษตรกรสวนปาล์มและผู้ประกอบการปาล์มเกิดความเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาล
รัฐบาลได้ทำตามสัญญา โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการจากหลายภาคส่วนกระทรวงพลังงานเป็นผู้ริเริ่มนโยบาย B10 จึงดำเนินงานประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือการทำให้ภาคเศรษฐกิจการเกษตรเข้มแข็ง ประชาชนในระดับฐานรากเกิดความมั่นคงในรายได้ ยืนยันรัฐบาลมาถูกทางแล้ว เพราะได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาสสำหรับเกษตรกรและประเทศไทยในภาพรวม
อีกส่วนหนึ่ง อยากให้ความเชื่อมั่นกับทุกท่าน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นและจริงใจในการดูแลปัญหาของเกษตรกร ขอให้เกษตรกรวางใจว่าผลผลิตการเกษตรจะได้รับการดูแล รัฐบาลจะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรภาคส่วนอื่นๆ อีก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลชุดนี้“น้ำมันบนดิน” คือโอกาสด้านพลังงานของไทย น้ำมัน B10 ได้แสดงให้เห็นว่าช่วยพลิกชีวิตเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.ปชป.ระบบบัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ตนอยากเห็นมีการติดตั้งมิเตอร์ ตามสต๊อกเก็บน้ำมันปาล์ม ของโรงงานปาล์ม เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม และจะได้รู้จำนวนน้ำมันปาล์มที่แน่นอนว่ามีเท่าใด ไม่ต้องมีการออกมาอ้างกันอีกว่าน้ำมันปาล์มล้นตลาด น้ำมันปาล์มขาดตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันมีเสถียรภาพด้วย ถึงแม้ว่าจะนำมาผลิต บี 10 แล้วก็ตาม ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า มีการอ้างอีกว่า น้ำมันปาล์มไม่พอ ต้องนำเข้า เมื่อถึงตอนนั้น ราคาผลปาล์มก็จะตกต่ำอีก
ดร.พิมพ์รพี กล่าวด้วยว่า ด้วยข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่า ในขณะนี้ ผลปาล์มของเกษตรกรไม่มีลูก ราคาที่โรงงานรับซื้อจึงสูงตามไปด้วย ตนอยากเห็นราคาผลปาล์มของเกษตรกร สูงอย่างนี้ตลอดไป ไม่ใช่ขึ้นหรือลง ตามแต่โรงงานกำหนดเหมือนที่ผ่านมา
– ต้นฉบับ