มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด #เมืองนคร ปี 2563 เริ่มวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
– นครซรีธรรมราช “นครแห่งอารยธรรม” เมืองนคร เป็นอาณาจักรโบราณ ที่มีประวัติศาสตร์ความรุ่งเรืองมาอย่างยาวนาน ในฐานะเมืองศูนย์กลางและเมืองท่าสำคัญแห่งแหลมมลายู อีกทั้งเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก่อน ร่องรอยที่ยังสามารถเห็นได้ชัดเจนก็คือพระธาตุองค์ใหญ่ “พระบรมธาตุเมืองนคร” อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวพุทธจากทั่วทุกสารทิศ
พระบรมธาตุเมืองนคร “พระบรมธาตุเจดีย์” หรือ “พระมหาธาตุเมืองนคร” ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของพุทธศาสนิกชน ซึ่งผู้มาเยือนเมืองนครศรีไม่ควรพลาดการไปกราบสักการะด้วยประการทั้งปวง
พระบรมธาตุเมืองนคร ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม
ตามตำนานเล่าว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. 854 ด้วยศิลปะแบบศรีวิชัย (มีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า)
ต่อมาในปี พ.ศ.1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชได้สร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม จากนั้น พ.ศ.1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน มีความสูง 55.78 เมตร องค์ระฆังสูง 9.80 เมตร มีปล้องไฉน 52 ปล้อง
พระบรมธาตุเมืองนคร ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม ขณะที่ยามแสงแดดตกต้ององค์พระธาตุ เหลื่อมเงากลับทาบทอดไม่ถึงพื้น จนดูเหมือนพระธาตุไม่มีเงา จึงทำให้ได้รับการเรียกขานว่าเป็น “พระธาตุไร้เงา” อีกฉายาหนึ่ง
พระบรมธาตุเมืองนคร ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีธรรมราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของภาคใต้ และของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งไม่เฉพาะแค่ชาวไทยเท่านั้น หากแต่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ที่นิยมเดินทางมาสักการะบูชากันอย่างต่อเนื่อง
ทุกๆ ปีที่พระบรมธาตุเมืองนครจะมีการจัดงานประเพณีสำคัญนั่นก็คือ งาน “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ขึ้น ปีละ 2 ครั้ง ช่วงวันมาฆบูชา (15 ค่ำ เดือน 3) และช่วงวันวิสาขบูชา (15 ค่ำ เดือน 6) โดยจะมีการนำผ้า “พระบฏ” ผ้าผืนยาว (นิยมใช้สีขาว เหลือง แดง)ไปห่มรอบองค์พระธาตุ พร้อมจัดขบวนแห่แหนกันอย่างยิ่งใหญ่
โดยในวันมาฆบูชา ปี 2563 นี้ ก็จะมีการจัดงาน “มาฆบูชาแห่งผ้าขึ้นธาตุ” และสมโภชองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ประจำปี 2563 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และสนามหน้าเมือง ซึ่งถือกันว่าเป็นหนึ่งกิจกรรม มหากุศลที่ชาวพุทธพึงได้บำเพ็ญครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและเป็นการสักการะองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด
อันประกอบด้วยกิจกรรมที่สำคัญได้แก่ การเฉลิมฉลองในโอกาสที่พุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชและกรมศิลปกรได้ดำเนินการบูรณะกลีบยอดทองคำและสร้อยสังวาลทองคำ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชาปี 2563 สำหรับปีนี้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2563 ณ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร, วัดบุญนารอบ, วัดศาลามีชัย, อ.ปากพนัง และสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช
เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุกระทำกันโดยพร้อมเพรียงเป็นขบวนที่เอิกเกริกเพียงขบวนเดียว ต่อมา ประชาชนมาจากหลายทิศหลายทาง แต่ละคนต่างเตรียมผ้ามาเองทำให้การแห่ผ้าขึ้นธาตุไม่พร้อมเพรียงเป็นขบวนเดียวกัน เพราะใครจะแห่ผ้าขึ้นธาตุในเวลาใดก็ได้ตามสะดวกตลอดทั้งวัน เมื่อขบวนแห่มาถึงวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร ก็แห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ 3 รอบ แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารม้า ซึ่งมีบันไดขึ้นสู่ลานภายในกำแพงแก้วล้อมฐานพระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อนำผ้าขึ้นห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด