การจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟน แท็บเลท หรือคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำให้สายตาอ่อนแอขึ้นทุกวัน นานวันเข้าอาจก่อให้เกิด ปัญหาเรื้อรังอย่างสายตาไม่โฟกัส รวมไปถึงสายตาสั้นลงเรื่อย ๆ มารู้จักวิธีง่ายๆ ในการถนอมสายตา (Eyes Care) ให้อยู่กับเราไปนานๆ
ถ้าได้ลองใช้วิธีเหล่านี้ รับรองว่าจะช่วยเราถนอมดวงตาได้อย่างแน่นอน
1. พักสายตาเป็นระยะ พักสายตาบ้างนะ
การจ้องจอนานเกินไป อาจทำให้ประสาทตาเกิดอาการล้าและเบลอได้ ยิ่งกะพริบตาน้อย ยิ่งทำให้เกิดอาการตาแห้งและแสบตาได้ ดังนั้นเราควรพักสายตาเป็นระยะจากการจ้องจอ ไม่ว่าจะเป็นจอสมาร์ทโฟน จอทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์ ก็ควรทำเช่นเดียวกัน จะหันไปมองวิวข้างนอก หรือออกไปเดินเล่นรับธรรมชาติ ก็ทำให้สดชื่นและลดอาการล้าจากดวงตาได้
2. นวดรอบดวงตาหรือประคบด้วยเจลเย็น
วิธีง่ายๆ อีกวิธีนั่นก็คือ นำมือมาปิดรอบดวงตาและนวดเบาๆ 2-3 ครั้ง จะรู้สึกได้ถึงการผ่อนคลายของดวงตา หรือหลับตาและประคบด้วยเจลเย็นเบาๆ ไม่กี่นาที ก็เรียกความสดชื่นของดวงตากลับมาได้ สามารถกลับมาสู้กับซีรีส์ที่ตอนต่อไปกำลังมาได้เลย
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารบำรุงสายตา
การนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ดังนั้นการพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้ลดอาการล้าของสายตาและช้ำรอบดวงตาได้ นอกจากนี้ การทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพื่อบำรุงสายตา ก็เป็นอีกทางเลือกที่ง่ายและอร่อยอีกด้วย
4. ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม
การใช้แสงในแต่ละพื้นที่จะมีความสว่างไม่เท่ากัน ยิ่งสว่างมาก ยิ่งทำให้การรับแสงของสายตาหนักมากเท่านั้น หรือการเล่นโทรศัพท์ในที่มืด และเปิดจอสว่าง ก็ทำให้ประสาทตามีอาการเสื่อมได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรปรับความสว่างให้เหมาะสม จะทำให้ลดอาการเพ่งไปที่จอ และเป็นการถนอมสายตาให้อยู่กับเราไปอีกนานได้
5. ปรับตัวอักษรของหน้าจอ และไม่จ้องจอใกล้จนเกินไป
ข้อนี้สำคัญสำหรับใครที่ชอบดูซีรีส์ทางสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต การจ้องจอใกล้เกินไป จะทำให้เกิดการเพ่งจอ ตามมาด้วยอาการล้าและแสบตาด้วย วิธีแก้คือการมองดูจากระยะที่เหมาะสม การปรับขนาดตัวอักษรในจอ และขนาดของจอจะต้องไม่เล็กจนเกินไป เพื่อที่ทำให้ดวงตาของเรา สามารถมองภาพในจอได้ชัดเจน
ความคืบหน้าของการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่นั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังอยู่ในระหว่างการทบทวนเกณฑ์คุณสมบัติผู้สมัครบัตรใหม่ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในต้นเดือนมีนาคม 2568 เพื่อพิจารณาข้อสรุปเกณฑ์บัตรสวัสดิการใหม่ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติต่อไป ก่อนที่การเปิดลงทะเบียนในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 ตามที่ ครม.ได้เห็นชอบตามไทม์ไลน์ ทั้งนี้ ช่องทาง… อ่านเพิ่มเติม..
วันพระ หรือเรียกอีกอย่างว่า วันธรรมสวนะ อันได้แก่วันถือศีลฟังธรรม (ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม) โดยปกติ ในเดือนหนึ่ง ๆ จะมีวันพระ 4 วัน ตรงกับวันขึ้น 8… อ่านเพิ่มเติม..
10-3-2-1-0 สูตรก่อนนอน ที่จะช่วยให้ตื่นมาสดชื่น โดยการเอาชนะใจของตนเองเป็นหลัก การนอนหลับผักผ่อนไม่เพียงพอมีความเสี่ยงต่อภูมิต้านทานลดลง เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ แถมยังอาจส่งผลให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนผิดปกติจนโหยอาหารและอ้วนง่ายขึ้น วิธีการนี้จะช่วยให้สามารถเข้านอนได้ตรงเวลา นอนหลับสนิท และตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยความแจ่มใสอย่างคนพักผ่อนเต็มที่และพร้อมสำหรับการทำงานในแต่ละวัน มาติดตามกันเลยว่าวิธี 10-3-2-1-0 จะมีอะไรบ้าง... 10… อ่านเพิ่มเติม..
พุทธศาสนาเริ่มเข้ามาในประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 3 หรือประมาณ 250 ปีก่อนคริสตกาล ผ่านการเผยแผ่ธรรมของพระสมณทูตจากอินเดีย ภายใต้การสนับสนุนของพระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนาในประเทศไทยจึงไม่เพียงแต่เป็นศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและชีวิตประจำวันของคนไทยอีกด้วย นิกายที่นิยมนับถือในประเทศไทยคือ นิกายเถรวาท (Theravada) ซึ่งเป็นนิกายที่ยึดถือพระไตรปิฎกเป็นหลักในการปฏิบัติและศึกษา นิกายนี้เน้นการบรรลุธรรมผ่านการปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย วัดและการปฏิบัติศาสนกิจ:ในประเทศไทยมีจำนวนมาก… อ่านเพิ่มเติม..
เปิดผลสำรวจผักและผลไม้ทั้งหมด 15 ชนิด ที่มีสารตกค้างเกินค่ามาตรฐาน จากห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง ตลาดสด 12 จังหวัด ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาพบ "กะเพรา" มีสารพิษตกค้างมากสุด 94% รองลงมา… อ่านเพิ่มเติม..
การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.