วาจาสิทธิ์ หลวงปู่เขียว อินทมุนี หรือ พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพนั้นก็สามารถบอกถึงกำหนดวันมรณภาพล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากสังขารท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้วยังเผาไหม้ได้อีกด้วย
ชาวบ้านทั้งหลายต่างเชื่อกันว่าหลวงปู่เขียวท่านมีวาจาสิทธ์พูดอย่างไรจะเป็นอย่างนั้น จึงเป็นที่เกรงกลัวกันไม่กล้าขัดขืนโต้เถียงท่านกลัวว่าหากหลวงปู่เขียวท่านหลุดปากพูดไปไม่ดีอาจจะเป็นจริงได้ จึงทำให้ชาวบ้านทั้งหลายทั้งกลัวเกรงและเคารพนับถือหลวงปู่เขียวอย่างมาก
เรื่อง อีห้วงมึงมีแต่เข่งไม่มีข้าว ที่ทางทิศตะวันออกของวัดหรงบนไม่ไกลมากมีโยมอุปัฏฐากหลวงปู่เขียวอยู่คนหนึ่งชื่อ นางห้วง คอยยกปิ่นโตหรือสำรับมาถวายหลวงปู่เขียวอยู่เสมอๆกับทั้งวันพระวันโกนไม่ได้ขาด
นางห้วงได้สามีเป็นคนจีนทำอาหารเก่งและขยันทำงาน จะเช่าที่นาหรือทำแบ่งข้าวกันภาษาถิ่นใต้เรียกว่าทำหวะจนมีข้าวเก็บจนเต็มยุ้งฉาง ข้าวที่เก็บไว้เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องการใช้เงินทองจึงจะนวดขายกันคราวนึง
มีอยู่วันหนึ่งเป็นช่วงตรุษจีนนางห้วงก็ยกปิ่นโตมาถวายหลวงปู่เขียวในวันพระ ซึ่งมีแกงและขนมเข่งแต่ลืมใส่ข้าวสวยมาด้วย เมื่อหลวงปู่เขียวเปิดปิ่นโต ท่านจำได้ว่าเป็นปิ่นโตของนางห้วง ท่านจึงพูดบอกขึ้นดังๆว่า “อีห้วงมึงมีแต่เข่งไม่มีข้าว”
หลังจากนั้นมาไม่นานจากที่นางห้วงและสามีทำนาได้ข้าวมามากมายจนเต็มยุ้งฉาง ก็ค่อยๆหดหายไปไม่มีข้าวมาใส่ยุ้งฉางเลย ทำนาๆก็ล่ม เช่านาก็ไม่ได้เหมือนแต่ก่อน
นางห้วงจึงคิดว่าคงเป็นเพราะวาจาหลวงปู่เขียวเมื่อคราวครั้งนั้นเป็นแน่ นางห้วงได้แต่เสียใจพูดขึ้นมาทีไรก็เอาแต่ร้องให้ ว่าที่แกต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะวาจาของหลวงปู่เขียว
โดยปกติชาวบ้านก็เชื่ออยู่แล้วว่าหลวงปู่เขียวท่านมีวาจาสิทธิ์ แต่ถึงอย่างไรนางห้วงก็ไม่กล้าไปพูดกับหลวงปู่เขียว เอาแต่พูดเสียใจอยู่ข้างนอกกับคนอื่นๆเพราะกลัวหลวงปู่เขียวจะได้ยิน
ขอบคุณเจ้าของภาพ-ข้อมูล