“เลือด” ไม่พอ ทั่วโลก เนื่องจากจำนวนผู้บริจาค ไม่สมดุลกับความต้องการใช้เลือด โดยเฉพาะในการผ่าตัดใหญ่ หรือการกระตุ้นการทำงานของไขกระดูกเพื่อสร้างเม็ดโลหิต
ปัจจุบัน ตามไกด์ไลน์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทุก ๆ 1,000 คน ต้องมีคนบริจาคเลือดราว 10 20 คน และการมีเลือดสำรองที่เพียงพอ จะเป็นตัวชี้วัดว่าระบบสาธารณสุขของประเทศนั้น ๆ มั่นคงเพียงใด
แต่การศึกษาล่าสุด พบว่าจาก 195 ประเทศทั่วโลก มากกว่า 119 ประเทศ มีเลือดสำรองสะสมไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชากร โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศรายได้ปานกลาง และประเทศรายได้ต่ำ
เมแกน เดลานีย์ นักวิจัยซึ่งศึกษาเรื่องนี้ บอกว่า ต้นตอของปัญหาก็คือ เมื่อระบบ “สาธารณสุข” ในประเทศรายได้ปานกลาง-ต่ำ เหล่านี้ ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น และเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็คือ ไม่มี “เลือดสำรอง” เพียงพอ ในการนำไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
นั่นสะท้อนให้เห็นว่า การทำให้ ดีมานด์ – ซัพพลาย ของระบบสาธารณสุขสมดุล ไม่ได้มีแค่เรื่องงบประมาณ หรือเรื่องกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องทำให้จำนวนเลือดสำรอง มีเพียงพอ จากการกระตุ้นให้ประชากร “บริจาคเลือด” เพิ่ม รวมถึงพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ให้เอื้อกับการบริจาคเลือด และจัดเก็บเลือดสำรองเพิ่มเติมด้วย
ทั้งหมดนี้ สะท้อนชัดว่า “ความเหลื่อมล้ำ” ทางรายได้ นอกจากจะส่งผลกระทบกับปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ก็ส่งผลกับปัญหาสาธารณสุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะในประเทศที่ประชาชนต้องหาเช้ากินค่ำ มีรายได้ไม่สมดุลกับรายจ่าย การจะให้คนไปบริจาคเลือดสม่ำเสมอ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ทั้งนี้ สาเหตุของการให้เลือด และถ่ายเลือด แตกต่างกันอย่างชัดเจน ในแต่ละกลุ่มประเทศ โดยประเทศรายได้สูง พบว่า สาเหตุใหญ่ มาจากการ “บาดเจ็บ” ซึ่งทำให้เสียเลือด และการเจ็บป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
ขณะที่โรคทางเดินหายใจ (เช่น วัณโรค) และการขาดสารอาหาร เป็นสาเหตุที่พบบ่อยสำหรับการถ่ายเลือด และให้เลือด ในประเทศที่มีรายได้ต่ำ
ทีมนักวิจัยยังพบอีกว่า ในประเทศรายได้สูงนั้น มีเลือดสำรอง เพียงพอต่อความต้องการ แต่ในประเทศรายได้ต่ำนั้น เลือดสำรองไม่เพียงพออย่างชัดเจน แม้ประเทศเหล่านี้ จะมี “ความต้องการ” เลือดไม่เท่ากับประเทศรายได้สูงก็ตาม
สำหรับ 119 ประเทศที่มีเลือดไม่เพียงพอนั้น พบว่าเป็นประเทศในกลุ่ม ซับ-ซาฮารา ในแอฟริกา ประเทศหมู่เกาะในกลุ่มโอเชียเนีย ประเทศในเอเชียใต้ และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามลำดับ
แต่ถึงกระนั้นเองเมื่อพิจารณาส่วนประกอบของเลือดสำรอง ซึ่งประกอบด้วย เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และพลาสม่า ก็ไม่เพียงพออยู่ดี หากต้องเข้าสู่กระบวนการ “ให้เลือด”
ประมาณการณ์ว่า ส่วนประกอบจากเลือดเหล่านี้ จะได้ประมาณ 1.5 ยูนิต จากการบริจาค โดยหากต้องการได้เลือดสำรอง และส่วนประกอบ ตามความต้องการ มากกว่า 40 ประเทศ จะต้องการ “ผู้บริจาค” เลือดมากขึ้นเป็น 30 คน ต่อประชากร 1,000 คน และ 4 ประเทศ ที่ขาดแคลนเลือดอย่างหนัก ต้องการผู้บริจาคเพิ่มเป็น 40 คน ต่อประชากร 1,000 คน สูงกว่า 10-20 คน ตามที่ WHO กำหนดไว้ในตอนแรก
ปัญหาใหญ่อีกอย่างก็คือ การจัดเก็บเลือดที่ปลอดภัย และความต้องการ ที่ “ไม่แน่นอน” ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นเงื่อนไขใหญ่ของระบบสำรองเลือด ในประเทศที่เจริญแล้ว อาจสามารถรับบริจาคได้มากกว่า เพราะมีสถานที่จัดเก็บที่เพียงพอ แต่ประเทศที่รายได้ต่ำ แค่ให้มีโรงพยาบาล มีหน่วยบริการเพียงพอ ก็ยากแล้ว
เช่นเดียวกับความ “ไม่แน่นอน” โดยเฉพาะเมื่อเกิดโรคระบาด เกิดอุบัติเหตุใหญ่ หรือเกิด “อุบัติภัย” ที่ต้องการเลือดสำรองเป็นจำนวนมาก ก็อาจเปลี่ยนความต้องการของบางประเทศ จากที่มีเลือดสำรองปริมาณที่พอเหมาะ เป็น “ขาดแคลน” ได้ เช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้น การจัดการธนาคารเลือด และระบบสำรองเลือด ควรจะเป็น “เสาหลัก” อีกอย่าง ในการจัดการกับปัญหาสาธารณสุขทั่วโลก เพิ่มเติมจากเรื่องงบประมาณ และระบบบริการ เพื่อเป็นหลักประกันว่า จะไม่มีผู้ป่วยคนใด ต้องป่วยหนักขึ้น หรือต้องเสียชีวิต เพราะเลือดสำรองไม่เพียงพอ
สำหรับประเทศไทย ยังพบปัญหา “ขาดแคลนเลือด” อย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายในแต่ละวัน สภากาชาดไทย ต้องการเลือดมากกว่า 2,000 2,500 ยูนิต ต่อวัน (ประมาณ 7.3 แสน 9.1 แสนยูนิต ต่อปี) แต่ข้อมูลเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา สภากาชาดไทย สามารถรับบริจาคได้เฉลี่ย 1,500 1,700 ยูนิตต่อวันเท่านั้น ทำให้โรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง จำเป็นต้องเลื่อนการผ่าตัดใหญ่ผู้ป่วย เนื่องจากเลือดสำรองไม่เพียงพอ
การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..
ข้อเข่า โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายบานพับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย การดูแลข้อเข่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมก่อนวัย และลดปัญหาอาการปวดหรือข้ออักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารบำรุงข้อเข่าให้เสื่อมช้าลง ปลา ที่มีโอเมก้า 3 เช่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น… อ่านเพิ่มเติม..
• ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่า "โกลิตะ" เป็นบุตรพราหมณ์ท้ายบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ โกลิตมาณพ เป็นเพื่อนสนิทกับอุปติสสมาณพ หรือ พระสารีบุตร… อ่านเพิ่มเติม..
พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ในหมู่บ้านโกลิตคาม ได้ชื่อว่า “โกลิตะ” ตามชื่อของหมู่บ้าน มารดาชื่อโมคคัลลี คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “โมคคัลลานะ” ตามชื่อของมารดา ท่านเป็นสหายที่รักกันมากับอุปติสสมาณพ (พระสารีบุตร) เที่ยวแสวงหาความสุขความสำราญ ตามประสาวัยรุ่น และพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย… อ่านเพิ่มเติม..
บทสวดมนต์ประจำวันเกิด แบบเต็มและแบบย่อทั้ง 7 วัน ตามกำลังวัน สวดก่อนนอนชีวิตราบรื่น ร่มเย็น เสริมสิริมงคล ประโยชน์ของการสวดมนต์ก็คือทำให้จิตใจเราผ่องใส และจิตใจสงบมากขึ้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิด คือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอาทิตย์… อ่านเพิ่มเติม..
อาการท้องผูก ท้องอืด ถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายมากถึงชีวิตแต่ก็สร้างความอึดอัดไม่สบายท้อง หรืออาจลุกลามกลายเป็นโรคอันตรายในอนาคตได้ และที่สำคัญอาการเหล่านี้มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง! ผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ผลไม้ 9 ชนิดช่วยขับถ่าย กากใยสูง แก้อาการท้องผูกชนิดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและหาทานง่าย… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.