เวลา 13.30 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.กระบี่ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.กระบี่ และ จ.นครศรีธรรมราช
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวม 10 คน พร้อมยาบ้า 4 แสนเม็ด อาวุธปืน 4 กระบอก รถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค 1 คัน ทะเบียน ญษ 4804 กทม.
การจับกุมเครือข่ายค้ายารายดังกล่าว เริ่มจาก จนท.ป.ป.ส.ภาค 8 ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 จับกุม ผู้ต้องหา 8 ราย ประกอบด้วย นายเฉลิมวุฒิ จันทรา อายุ 36 ปี พร้อมยาบ้า 38 เม็ด ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุน 3 นัด กระสุนปืน .45 ขยายผลต่อจับกุม น.ส.รุ่งนภา กาหลง อายุ 23 ปี พร้อมยาบ้า 150 เม็ด โดย 2 รายแรกจับได้ในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่
ก่อนจะขยายต่อไปจับนายณัฐพงษ์ ติกขนา อายุ 30 ปี และ น.ส.สุกัญญา นามวงค์ อายุ 27 ปี พร้อมยาบ้า 31 เม็ด ไอซ์น้ำหนัก 18.61 กรัม ปืน .32 พร้อมกระสุน 7 นัด ยึดรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค ทะเบียน ญษ 4804 กทม. จากนั้นขยายผลจับกุมนายไกรเทพ สงเคราะห์ อายุ 21 ปี นายธนา อินทรณรงค์ อายุ 21 ปี นายวัชรพงศ์ ศักดิ์จิรพาพงษ์ อายุ 27 ปี นายวัฒนา กามินทร์ อายุ 24 ปี ยาบ้า 575 เม็ด ไอซ์ 5.99 กรัม ปืน .38 จำนวน 2 กระบอก 4 คนหลังถูกจับได้ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
ต่อมา ให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ ติดต่อขอรับยาเพิ่มจากเครือข่าย จนสามารถจับกุมนายสุพจน์ รักษาจันทร์ อายุ 46 ปี พร้อม น.ส.อำภรรัตน์ สงวนศักดิ์ อายุ 41 ปี ได้ที่หน้าโรงเรียนบ้านสวน หมู่ 6 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด มาส่งให้ตามนัด คุมตัวไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 142 หมู่ 3 ต.วังหิน ของผู้ต้องหารายหลังสุดพบยาบ้าอีก 199 มัด
ซ่อนอยู่ในสวนยางพารา จนท.แกะออกดูพบยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด จึงคุมตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เป็นของกลาง
พ.ต.อ.พิษณุ กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับได้ในครั้งนี้ เป็นเครือข่ายรายใหญ่ในพื้นที่ จ.กระบี่ ซึ่งมีบุคคลเป้าหมายอีก 1 คนที่เป็นตัวการใหญ่ เป็นชาวจ.กระบี่ รับยาเสพติดมาจากโรงงานผลิตของประเทศเพื่อนบ้านโดยตรง ส่งตรงมาขายในพื้นที่ จ.กระบี่
ต่อมา เริ่มขยายพื้นที่ไปจำหน่ายใน จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจจึงวางแผนติดตามกลุ่มเครือข่ายจนสามารถจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ในพื้นที่เป้าหมาย และขยายผลจนสามารถจับกุมมาได้เกือบทั้งหมดในแก๊งเดียวกัน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังคงขยายผล ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่คอยทำหน้าที่รับยาบ้ามาโดยตรงจากโรงงานผลิต.