ท้าวเวสสุวรรณ ผู้มั่งคั่ง แผ่อำนาจบารมียิ่งใหญ่ไพศาล สุดยอดคาถา บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างไรให้มั่งคั่งร่ำรวย
ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร) ท้าวเวสสุวรรณหรือท้าวกุเวรเป็นเทพหรือยักษ์ที่ปรากฏอยู่ ทั้งในศาสนาพุทธและพราหมณ์และมีผู้นิยมกราบไหว้กันมาก ตามคติความเชื่อทางศาสนาพุทธกล่าวไว้ในพระสูตรที่ชื่อว่า “อาฏานาฏิยะ”ว่า ท้าวกุเวรเป็นหนึ่งในท้าวจตุมหาราช ผู้ครองสวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา (สวรรค์กามาวจร ชั้นที่ 1)
ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้นยังมีชื่ออีกหลายชื่อ เช่น ธนบดี หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ ธเนศวร” หมายถึง ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ ชื่ออื่นๆคือ “อิจฉาวสุ” หมายถึง “ความมั่งมีได้ตามใจ” ชื่อ ยักษ์ราชอันหมายถึง “เจ้าแห่งยักษ์”
หรือชื่อมยุราช หมายถึง “เป็นเจ้าแห่งกินนร” ชื่อรากษเสนทร์ หมายถึง “ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษส” ส่วนในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า “ท้าวกุเรปัน” เป็นต้น
ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่าง จากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ อุบัติขึ้นในโลกนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า “กุเวร” เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบอาชีพสุจริต ด้วยการทำไร่อ้อยแล้วนำต้นอ้อยมาตัดใส่ลงไปในหีบยนต์เพื่อบีบน้ำอ้อยขายเลี้ยงชีวิต
ต่อมากิจการได้เจริญขึ้นจนเป็นเจ้าของหีบยนต์ สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับ คนเดินทางและได้บริจาคน้ำอ้อยจากหีบยนต์เครื่องหนึ่ง ซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อยมากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่น ๆ
ให้เป็นทานแก่คนเดินผ่านไปมาจนตลอดอายุขัย ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้น ทำให้หนุ่มกุเวรผู้นี้ได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมา กุเวรเทพบุตรได้รับการเทวาภิเษก (ขึ้นครองราชย์) เป็นผู้ปกครองดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1 ด้านทิศเหนือจึงได้มีพระนามว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”
ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนายืนยันว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” ผู้ซึ่งเป็นเทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จ เป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อครั้งที่ “จุลสุภัททะปริพาชก” เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่ง องค์พระพุทธเจ้า ท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์นี้เอง
ที่ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับ ด้วย และ ยังเป็นประจักษ์พยาน เรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนตวิมานของพระอินทร์ จนเกิดการ สั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวรรค์ชั้นที่สอง อันเป็นการเตือนสติพระอินทร์อีกด้วย และก็มีความเชื่อ ในฤทธานุภาพอันทรงฤทธิ์ของท่านตาม ฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 – หน้าที่ 435 ว่า
“คฑาวุธ ของท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นยอดแห่ง ศาสตราวุธที่มีอานุภาพสามารถทำลายโลกใบนี้ ให้เป็นจุณได้ในพริบตา” จากคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่า ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณนั้นท่านเป็นเทพที่สำคัญ ยิ่งใหญพระองค์หนึ่งที่มีหน้าที่ “คอยพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา” ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ท่านท้าวสักกะเทวราชเลย
ตามวัดวาอารามต่าง ๆนั้นจะมีรูปปั้นยักษ์ 1 ตน หรือ 2 ตนบ้าง คอยยืนถือกระบองค้ำพื้น ส่วนมาก จะมี 2 ตน เฝ้าอยู่หน้าประตูโบสถ์ หรือ วิหารที่เก็บ ของมีค่ามีพระพุทธรูป และโบราณสมบัติล้ำค่า ของทางวัดบรรจุอยู่ด้านละ 1 ตนหรือไม่ก็ปรากฏ อยู่ในบริเวณลานวัดหรือที่ที่มีคนผ่านไปมาแล้ว เห็นโดยง่ายนั่นหมายถึงท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง
เคล็ดการบูชาท้าวเวสสุวรรณ
**จุดธูป 9 ดอก** **ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก** ระลึกถึง คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์
– ตั้งนะโมฯ 3 จบ –
– สวดคาถาชินบัญชร 1 จบ –
– สวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ –
ปุตตะ กาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะญายะ เทวานัง ปิยะตังสุตตะวา อิติปิโส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวชสุวรรณโณ มรนังสุขัง อะหัง สุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวชสุวรรณโน จตุมหาราชิกา ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ ( สวด 9 จบ – 21 จบ )
การจะบูชาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต้องนำเอาหลักความดี ของท่านมาน้อมนำปฏิบัติด้วยคือ ต้องดำรงตนให้เป็น ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องพระพุทธศาสนา ไม่ให้เสื่อมจากคนไม่ดีตลอดจนต้องหาเลี้ยงชีพด้วย ความสุจริต หมั่นบริจาคทานเพื่อเป็นกุศลแก่ทั้งตัวเอง
และเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ได้ ทั้งบูชาด้วยการไหว้และนำคุณธรรมของท่านไปปฏิบัติ ด้วยจะส่งผลให้เจริญก้าวหน้าและร่ำรวย มีความสุขอย่างแน่นอน