ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเรื่องเจ้ากรรมนายเวรในสมัยพุทธกาล เป็นเรื่องของพระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้าย ซึ่งเป็นธรรมเสนาบดีของพระพุทธเจ้า
พระโมคคัลลานะนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็น เอตทัคคะในด้านมีฤทธิ์มาก นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่มีความสามารถในการก่อสร้างเป็นอย่างมาก โดยท่านได้รับมอบหมายจากพระพุทธองค์ให้เป็นผู้ควบคุมดูแลการก่อสร้างวัด “บุพพาราม” ซึ่งนางวิสาขามหาอุบาสิกาบริจาคทรัพย์จำนวนมากถวายให้ ณ เมืองสาวัตถี
แต่ใครจะทราบบ้างว่า ตัวท่านเองนั้นมีเจ้ากรรมนายเวรที่ท่านต้องรับผลของกรรมนั้นเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ
มูลเหตุเรื่องกรรมเก่าของท่านเกิดขึ้นเมื่อ พระพุทธองค์มีรับสั่งให้พระโมคคัลลานะไปอบรมสั่งสอนนักบวชนอกศาสนาให้ลดความดื้อดึงและการยึดมั่นถือมั่นในลัทธิอันไร้ประโยชน์ที่พวกเขาเหล่านั้นให้ความนับถืออยู่เสีย เพราะว่าจะทำให้เสียเวลาและชีวิตเกิดความสูญเปล่าไปโดยใช่เหตุ
จ้าวลัทธิเหล่านั้นก็อยากลองวิชากับพระโมคคัลลานะที่เดินทางมาโปรด จึงทำการปล่อยพญานาคมาทำร้ายหวังจะเอาชีวิต พระโมคคัลลานะได้ตั้งจิตภาวนาสวดมนต์แผ่ส่วนกุศลให้พญานาคเพื่อคลายความเกรี้ยวกราดลง และในที่สุดก็ทำให้พญานาคสงบจิตลงได้
นักบวชที่หลงผิดและเกรงในอำนาจของพระโมคคัลลานะบางกลุ่มก็สำนึกได้ และหันกลับมาฟังธรรมของพระพุทธองค์จนบรรลุเป็นพระโสดาบันหันมาบวชในพระพุทธศาสนา
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อ เศรษฐีผู้หนึ่งเป็นชาวเมืองราชคฤห์ แห่งแคว้นมคธ เกิดอยากจะเห็นพระอรหันต์ที่แท้จริง จึงต้องการทดสอบเพื่อค้นหาพระอรหันต์ที่แท้
จึงสั่งให้ช่างกลึงไม้จันทน์แดงทำเป็นบาตรแล้วแขวนไว้ในที่สูงเกินกว่าจะมีใครเอื้อมถึงได้ ผู้ใดที่เป็นอรหันต์จริงก็จงเหาะมาเอาบาตรนั้นไปแล้วตนจึงจะให้การยอมรับว่าพระอรหันต์นั้นมีอยู่จริง
ในเมืองราชคฤห์นั้นเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญสูง มีจ้าวลัทธิหลายสำนักที่ต่างก็โอ้อวดตนเองว่าเป็นอรหันต์ แต่เมื่อให้ลองมาพิสูจน์ก็ไม่มีผู้ใดสามารถจะนำบาตรลงมาได้ หลายวันผ่านไปก็ไม่มีใครเหาะขึ้นไปเอาบาตรได้เสียทีจนผู้คนในเมืองต่างพากันเชื่อว่าในโลกนี้คงจะไม่มีพระอรหันต์อยู่จริงเป็นแน่แท้
ในขณะนั้นพระโมคคัลลานะ กับ พระปิณโฑลภารทวาชะ กำลังยืนห่มจีวรเพื่อที่จะเข้าไปบิณฑบาตในเมืองได้ยินชาวบ้านกล่าวถึงเรื่องการพิสูจน์การมีอยู่ของพระอรหันต์ว่ามีจริงหรือไม่ ทั้งสองท่านเห็นว่าควรจะประกาศให้ประชาชนรู้ว่า พระอรหันต์มีอยู่จริงเพื่อเป็นการลดทิฐิมานะของเหล่าชาวเมืองลง
พระโมคคัลลานะแม้จะมีฤทธิ์มากกว่าใครแต่ก็เป็นผู้ใจกว้างเปิดโอกาสให้พระปิณโฑลภารทวาชะได้แสดงปาฏิหาริย์เหาะขึ้นไปนำบาตรลงมา ซึ่งพระปิณโฑลภารทวาชะก็สำแดงฤทธิ์ให้ชาวบ้านทั้งหลายเป็นที่ประจักษ์แก่สายตารวมไปถึง เศรษฐีต้นตอของเรื่องด้วย ทำให้ชาวเมืองทั้งหมดได้ลดทิฐิมานะทั้งหลายลงพากันเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาโดยทั้งสิ้น
การเปิดโอกาสให้พระผู้อ่อนพรรษากว่าอย่างพระปิณโฑลภารทวาชะ ให้เป็นผู้แสดงฤทธิ์แทนตนเองนั้นเป็นความต้องการของพระโมคคัลลานะโดยมีจุดประสงค์ต้องการยกย่องความรู้ความสามารถของพระพุทธสาวกอื่นๆให้ปรากฏบ้างนั่นเอง
ด้วยเหตุที่พระปิณโฑลภารทวารชะ ได้เหาะขึ้นไปเอาบาตรนี่เองทำให้พระพุทธองค์ต้องทรงบัญญัติให้มีกฎ “ห้าม” พระอรหันต์แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้กับเหล่าคฤหัสถ์ทั้งหลายชมเป็นอันขาดเพราะเกรงว่า คนทั้งหลายจะเข้าใจผิดเรื่องการมีอิทธิวิธีหรือการแสดงปาฏิหาริย์ต่าง ๆนั้นหมายถึงการสำเร็จถึงความเป็นพระอรหันต์ ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้น
อิทธิวิธีทั้งหลายไม่ว่าการเหาะเหินเดินอากาศ, การมีหูทิพย์, ตาทิพย์, การรำลึกชาติได้ หรือการอ่านใจคนได้ เป็นเพียงความสามารถส่วนของหนึ่งของพระผู้เป็นอรหันต์เท่านั้น ความเป็นอรหันต์ที่แท้จริง คือการสามารถบรรลุธรรมและตัดกิเลสออกจากกมลสันดานได้หมดจดนั่นจึงหมายถึงความเป็นอรหันต์ที่แท้ นอกจากนั้นบาตรไม้ที่เศรษฐีนำไปแขวนไว้นั้น
พระพุทธองค์ก็ทรงห้ามให้ภิกษุทั้งหลายไม่ให้ใช้บาตรไม้เป็นอันขาดเพราะการนำไม้มาทำเป็นบาตรก็เป็นการเบียดเบียนเหล่าพืชซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์
บรรดาจ้าวลัทธิที่ยังมีจิตใจเป็นพาลไม่ได้บรรลุธรรมเหมือนจ้าวลัทธิบางพวก เมื่อการแสดงปาฏิหาริย์ของพระอรหันต์บังเกิดผล พวกตนจึงได้รับผลกระทบเงินทองของบริจาค ที่เคยได้ก็เริ่มลดน้อยไม่มีคนกราบไหว้นับถือเช่นเดิม
จ้าวลัทธิทั้งหลายจึงคิดกำจัดพระโมคคัลลานะ อันเป็นต้นเหตุเสีย จึงได้ร่วมมือกันว่าจ้างโจรกลุ่มหนึ่งเพื่อไปทำการสังหารพระโมคคัลลานะด้วยธนู ซึ่งในขณะนั้นท่านกำลังนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำกาฬศิลา อยู่ใกล้กรุงราชคฤห์ ท่านก็รับรู้ถึงอันตรายได้ด้วยฌานและใช้อภิญญาอิทธิฤทธิ์หายตัวทำให้พวกโจรหาไม่พบ แล้วก็พากันล่าถอยกลับไป
แต่ไม่นานพวกโจรก็กลับมาตามล่าพระโมคคัลลานะอีกครั้ง แต่ก็ทำอะไรพระโมคคัลลานะไม่ได้ท่านก็แสดงฤทธิ์หายตัวหนีไปได้อีก แต่ในขณะนั้นเองท่านก็ได้เข้าฌานสมาบัติ เพื่อตรวจดูกรรมในกาลก่อนของตนแล้วพบว่าตนเองได้สร้างกรรมให้ผูกพันทำให้เหล่าโจรนี้กลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรของตน
ในอดีตชาติ พระโมคคัลลานะนั้นเกิดในตระกูลพราหมณ์ที่ยากจนเป็นลูกคนเดียวอีกทั้งพ่อแม่ ประสบเคราะห์กรรมตาบอดด้วยกันทั้งสองคนเป็นภาระให้ลูกชายต้องคอยปรนนิบัติเลี้ยงดูแต่ลูกชายก็ไม่ได้รังเกียจพ่อแม่หรือรำคาญที่พ่อแม่ต้องตาบอดให้การเลี้ยงดูอย่างดีเสมอมา
ต่อมาพ่อแม่ได้จัดการสู่ขอหญิงสาวที่มีชาติตระกูลมาและจัดพิธีแต่งงานให้แต่ตนเองก็ไม่ได้เต็มใจนักเพราะ ตระหนักว่าตนเองเพียงลำพังก็สามารถดูแลพ่อแม่ได้ ในระยะแรกครอบครัวก็มีความสุขดีตามอัตภาพ
แต่พอเวลาผ่านไปลูกสะใภ้ก็เริ่มมีความรังเกียจพ่อแม่สามีที่ตาบอดต้องคอยเป็นภาระให้ลูกและสะใภ้อยู่มากอีกทั้งไม่สามารถทำงานใด ๆได้ก็เกิดความเบื่อหน่ายและรังเกียจ จึงหาวิธียุแหย่ให้สามีเกลียดชังพ่อแม่ โดยกล่าวหาว่าพ่อแม่กลั่นแกล้งนางผู้เป็นสะใภ้สารพัด
ในที่สุดเมื่อถูกยุแหย่มาก ๆเข้า ลูกชายก็คล้อยตามคำของภรรยารับปากว่าจะหาวิธีจัดการกับพ่อแม่ขของตนเองโดยให้นั่งเกวียนแล้วออกเดินทางพอไปถึงที่เปลี่ยวก็จัดการจอดเกวียนแล้วแสร้งตะโกนว่าถูกโจรปล้น จากนั้นก็จัดการหยิบไม้เพื่อกลับไปสังหารพ่อและแม่ของตัวเองทันที!!
เมื่อพระโมคคัลลานะได้รำลึกถึงอดีตชาติจนชัดแจ้งแล้วก็เข้าใจว่า เหล่าโจรที่มาตามล่าตนเองก็คือ เจ้ากรรมนายเวรของตนที่ตามมาล้างแค้นเหมือนที่ตนเองก็เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกลับไปทำร้ายพ่อแม่ของตัวเองเช่นกัน
เมื่อคิดได้ดังนั้นท่านจึงปลงใจยอมรับกรรมที่จะเกิดขึ้นในเบื้องหน้า นั่งคอยให้พวกโจรมาทุบตีจนกระดูกแหลกไม่มีชิ้นดี จากนั้นก็พากันหลบหนีไปทิ้งร่างของพระโมคคัลลานะเอาไว้
พระโมคคัลลานะได้รวบรวมกำลังกายพยุงร่างอันบอบช้ำขึ้นมานั่งแล้วใช้อิทธิฤทธิ์ประสานกระดูกให้เข้าที่ จัดจีวรให้เรียบร้อยแล้วเหาะไปยังวัดเวฬุวัน อันเป็นที่ประทับของพระพุทธองค์ในขณะนั้นกราบทูลอำลาเพื่อนิพพาน
ก่อนที่จะนิพพานนั้น พระพุทธองค์โปรดขอให้พระโมคคัลลานะแสดงธรรมเป็นครั้งสุดท้าย เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พระองค์จะได้พบสาวกดังเช่นพระโมคคัลลานะอีก ท่านก็ปฏิบัติตามตามที่พระพุทธองค์ได้ขอ
และเหาะกลับไปยังถ้ำกาฬศิลาปรินิพพาน ณ ที่แห่งนั้นตรงกับ วันแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ หลังจากที่พระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวาได้นิพพานไปก่อนหน้านั้นได้ ๑๕ วัน
จากตัวอย่างของพระโมคคัลลานะ แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ในผู้ที่บรรลุธรรมชั้นสูงสุดก็ยังมีเจ้ากรรมนายเวรคอยตามอาฆาตอยู่ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากผลกรรมที่ตนเองได้ทำไว้ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ทางแก้ของท่านคือการปลงใจยอมรับแต่โดยดี เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรหายแค้น แต่ทว่าผลของกรรมอันหนักก็ต้องตกกับผู้ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรอันคือเหล่าโจรต่อไป
การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..
ข้อเข่า โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายบานพับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย การดูแลข้อเข่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมก่อนวัย และลดปัญหาอาการปวดหรือข้ออักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารบำรุงข้อเข่าให้เสื่อมช้าลง ปลา ที่มีโอเมก้า 3 เช่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น… อ่านเพิ่มเติม..
• ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่า "โกลิตะ" เป็นบุตรพราหมณ์ท้ายบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ โกลิตมาณพ เป็นเพื่อนสนิทกับอุปติสสมาณพ หรือ พระสารีบุตร… อ่านเพิ่มเติม..
พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ในหมู่บ้านโกลิตคาม ได้ชื่อว่า “โกลิตะ” ตามชื่อของหมู่บ้าน มารดาชื่อโมคคัลลี คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “โมคคัลลานะ” ตามชื่อของมารดา ท่านเป็นสหายที่รักกันมากับอุปติสสมาณพ (พระสารีบุตร) เที่ยวแสวงหาความสุขความสำราญ ตามประสาวัยรุ่น และพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย… อ่านเพิ่มเติม..
บทสวดมนต์ประจำวันเกิด แบบเต็มและแบบย่อทั้ง 7 วัน ตามกำลังวัน สวดก่อนนอนชีวิตราบรื่น ร่มเย็น เสริมสิริมงคล ประโยชน์ของการสวดมนต์ก็คือทำให้จิตใจเราผ่องใส และจิตใจสงบมากขึ้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิด คือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอาทิตย์… อ่านเพิ่มเติม..
อาการท้องผูก ท้องอืด ถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายมากถึงชีวิตแต่ก็สร้างความอึดอัดไม่สบายท้อง หรืออาจลุกลามกลายเป็นโรคอันตรายในอนาคตได้ และที่สำคัญอาการเหล่านี้มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง! ผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ผลไม้ 9 ชนิดช่วยขับถ่าย กากใยสูง แก้อาการท้องผูกชนิดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและหาทานง่าย… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.