วิธีการรักษาศีลที่ถูกวิธี คำสอนในพระนิพนธ์ของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถระ) สมเด็จพระสังฆราชมากล่าวนำไว้ในที่นี้ว่า
“การรักษาศีลนั้นในชั้นแรกย่อมรู้สึกลำบาก ยากที่จะปฏิบัติอยู่บ้างเป็นของธรรมดา เพราะยังไม่เคยกระทำ แต่เมื่อเชื่อใจแน่วแน่ต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าเป็นคำสอนที่ดี มีคุณประโยชน์แก่ผู้ประพฤติตามได้อย่างจริงใจแล้ว อดทนปฏิบัติตามไปด้วยอุตสาหะพากเพียร
ในไม่ช้าการที่การที่เห็นว่าเป็นของยากลำบากทำไม่ได้ ก็จะกลายเป็นของง่าย ทำตามไปได้อย่างเป็นปกติ ไม่รู้สึกลำบากเช่นเดียวกับ กิริยายืน เดิน นั่ง นอนซึ่งแต่เดิมเราก็ทำไม่เป็น แต่เมื่อร่างกายค่อย ๆเติบโตขึ้น ได้พยายามฝึกหัดกิริยาเหล่านี้มาแต่เล็กแต่น้อย จึงค่อยกระทำได้คล่องแคล่วอย่างเป็นปกติธรรมดา ด้วยความเคยชินตามระยะเวลาที่เติบโต
จึงสมควรอย่างยิ่งที่ชาวพุทธทั้งหลายจะได้ตั้งใจสำรวมระวังกายวาจาของตนตามองค์แห่ง ศีล ๕ นี้ให้เป็นคุณสมบัติประจำใจตลอดไปทุกวันคืนจะทำให้มีกำลังผ่องใส เบิกบานสุขกาสบายใจอย่างแท้จริง เท่ากับได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น ตามที่โบราณว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจฉะนั้น…”
จากคำสอนของท่านแสดงให้เห็นว่า การรักษาศีลแท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ง่าย เหมือนการที่เราต้องดำรงชีวิตประจำวันเพียงแต่ต้องกระทำอย่างจริงจังและมีความมุ่งมั่นสม่ำเสมอ มากพอ และ นานพอจึงจะเป็นบาทฐานแห่งบุญให้เต็มพอจะนำไปใช้หนี้กรรมต่อทุกคนได้
วิธีการถือรักษาศีลให้เกิดผล
การรักษาก็คือการถือเว้น แน่นอนว่าบางสิ่งบางอย่างที่เราเคยกระทำอาจเป็นสิ่งที่ผิดศีล เช่นเผลอตบยุงบ้าง เผลอหยิบของของคนอื่นไปใช้โดยไม่บอกกล่าวบ้าง เผลอพูดจาว่าร้ายโกหกบ้าง และมีพฤติกรรมชอบดื่มอยู่เป็นประจำ
การถือปฏิบัติรักษาศีลด้วยการ “งดเว้น” จึงดูเหมือนเป็นข้อห้ามที่ทำให้รักษาได้ยาก อะไรที่ถูกห้ามมักจะทำให้เราอยากจะฝ่าฝืนเสมอ การรักษาศีลจึงต้องมีตัวช่วยที่ทำให้เกิดกำลังใจที่จะกระทำเพื่อให้บรรลุผลเรียกว่า “พละ ๕”
พละ ๕ แปลง่ายๆ ว่า “พลัง” ซึ่งพลังที่ว่าก็คือพลังที่ใช้กับจิตใจ การที่เราทำอะไรไม่ค่อยจะสำเร็จหรือพบความยากลำบากทุกครั้งก็เพราะ พละ ๕ นั้นไม่ค่อยมี หรือจะมีก็มีน้อย แต่หากมีธรรมทั้ง ๕ อย่างนี้ประกอบกันเข้าแล้วทำให้ใจมีพลังแก่กล้าและทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จได้ ธรรมทั้ง ๕ อย่างนั้นได้แก่
๑. ต้องมีความเชื่อ (ศรัทธา) คือเชื่อแน่วแน่ในคุณงามความดีว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีใครคนอื่นรับแทนได้ ตนทำตนต้องได้รับผลนั้นแน่นอน คนที่ประมาทดูถูกศรัทธาในคุณงามความดี
ก็เลยไม่กล้าทำความดีต่อไป ไม่กล้าที่จะรักษาศีล เมื่อไม่มีศรัทธาที่ถูกต้องก็ป่วยการที่จะรักษาศีลได้ เพราะไม่มีความเชื่อถือว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นับเป็นภัยต่อการรักษาศีลอย่างที่สุด
การที่เราทำอะไรหละหลวมในการรักษาศีล ก็เพราะเหตุไม่มีศรัทธา และทำอะไรไม่แน่วแน่เต็มที่ก็เพราะไม่มีศรัทธาเหมือนกัน เรามักพลั้งเผลอ หลงลืม นั่นคือศรัทธาของเราไม่เต็มที่ แต่เมื่อศรัทธามีแล้ว ความเพียร มันก็จะวิ่งเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือเป็นกำลังในการกระทำ
ขยันหมั่นเพียรประกอบกิจต่างๆเช่น เมื่อเชื่อว่าบุญมีบาปมี ก็ตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลป้องกันความชั่วไม่ให้เข้ามา ซึ่งผลก็คือ สุขกาย สุขใจ ชีวิตมีแต่ความสงบ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนให้รำคาญใจ เพราะศีลสมบูรณ์
๒.ต้องมีความเพียร (วิริยพละ) เพียรพยายามอยู่ตลอดเวลา ในเมื่อมีศีลก็พยายามรักษาศีลไม่ให้ขาด ทีแรกก็รักษาได้เป็นครั้งคราวเพียรพยายามนานเข้าให้มันชินให้มันคุ้นเคยกับศีล มันก็เป็นศีลบริบูรณ์ขึ้นมาให้คิดถึงเรื่องศีลของตน ว่าข้อไหนบกพร่องข้อไหนบริบูรณ์แล้วก็พยายามรักษาข้อที่บกพร่องให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ผู้ที่ไม่คิดถึงศีลเลย เชื่อว่ามีของดีแล้วได้ของดีแล้วแต่ไม่เห็นความของของดีนั้น ก็เปรียบเหมือนลิงได้แก้ว ไก่ได้พลอย ไม่เห็นคุณค่าที่จะรักษาไว้เมื่อเสียของไปแล้วก็ยากที่จะหามาได้ใหม่ กว่าจะสร้างใหม่ให้ได้บริบูรณ์เหมือนเดิมก็ต้องใช้เวลานาน เท่ากับเป็นการสูญเวลาเปล่า
๓. มีสติตั้งมั่นอยู่กับเรื่องนั้น (สติพละ) หมาความว่า แม้จะมีศรัทธา หรือมีวิริยะแล้ว เราอาจที่จะหลงเชื่อในสิ่งที่ผิดก็ได้ หรือเพียรพยายามในสิ่งที่ผิดก็มี ถ้าหากไม่มีสติไม่ควบคุมไว้ว่า สิ่งนั้นควรหรือไม่ควรสิ่งนั้นผิดหรือถูก ถูกต้องตามธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ฟังคำครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนตักเตือนมันตรงกันหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ต้องมีสติควบคุมระวัง จึงจะเดินถูกทาง
บางทีการที่เราเชื่อและมีความเพียรทำในสิ่งที่เชื่อ ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งผิดก็จะทำให้ยิ่งหลง บางคนก็ถือรักษาศีลอย่างผิดๆ เช่นเชื่อว่ารักษาศีลแล้วจะได้ไปสวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้ ไม่ได้เชื่อว่าการรักษาศีลเป็นการกระทำเพื่อเป็นพื้นฐานในการป้องกันตนจากความชั่ว ก็จะพากันถือศีลอย่างงมงาย หรือถือกันแบบเคร่งครัด วิตกกังวลจนเกินไป จนทำให้ชีวิตเคร่งเครียดไม่มีความสุข อย่างนี้เป็นต้น แต่ก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกและพยายามชักนำให้คนอื่นเชื่อว่าถูกตามตนไปด้วย ก็นับว่าอันตรายยิ่งนัก
หลวงปู่ เทสก์ เทสรังสี พระอริยสงฆ์แห่งวัดหินหมากเป้ง จ. หนองคายกล่าวไว้ว่า “ คนใดว่าตนดี คนนั้นยังไม่ดี ใครว่าตนวิเศษวิโสหรือฉลาดเฉียบแหลม คนนั้นคือคนโง่ ” ดังนั้นการจะทำอะไรๆ ก็ตามควรจะมีสติคอยประคับประคองอยู่เสมอจึงจะทำได้สำเร็จอย่างตลอดรอดฝั่ง
๔. มีจิตตั้งมั่น (สมาธิพละ) ถือเป็นหลักใหญ่ที่สุด ศรัทธา วิริยะ สติ แล้วก็จะรวมมาเป็นสมาธิ การกระทำสิ่งใดก็ตามถ้าจิตไม่สามารถรวมเป็นสมาธิได้ มันเตลิดเปิดเปิงไปใหญ่โต
ยกตัวอย่างเช่น การทำมาหากินประกอบอาชีพไม่ว่าจะ ค้าขาย ทำราชการบ้านเมืองอะไรต่าง ๆ จุดรวมหรือเป้าหมายก็คือมาเลี้ยงตัว จุดรวมก็คือ “หาเงิน” หาเงินแล้วก็รวมเอาเงินเข้ามาเก็บและใช้ประโยชน์ฉันนั้น การมีจิตตั้งมั่นแน่วแน่ในการรักษาศีลก็จะเป็นจุดรวมให้พึงละเว้นในการกระทำชั่วทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการจะเกิดสมาธิได้อย่างไรก็ต้องอาศัยบาทฐานพละทั้ง ๓ อย่างที่กล่าวมาแล้วเป็นตัวตั้ง และทำอย่างสม่ำเสมอ สมาธิจึงเกิดได้
๕. มีปัญญา (ปัญญาพละ) คือปัญญาพิจารณาเห็นความจริงแห่งการผิดศีลว่าจะเกิดผลเสียอย่างไรตามธรรมชาติและความเป็นจริง และปัญญานี่เองเป็นตัวที่จะควบคุมและบ่งบอกการรักษาศีลให้มีประสิทธิภาพได้สูงสุด
เราละเว้นการฆ่าสัตว์ได้ เพราะศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใสในเรื่องบาปบุญคุณโทษ เราละเว้นการลักทรัพย์ได้เพราะมีความเพียรพยายามละชั่ว ระวังความชั่วนั้นไม่ให้เกิด เราละเว้นการผิดลูกเมียผู้อื่นได้เพราะมีสติในกาย ในความรู้สึก ในจิต และ ในธรรมว่าคนของใคร ใครก็รัก
เราละเว้นการพูดปด พูดหยาบคาย พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อได้ เพราะมีสมาธิ ความตั้งใจมั่นในความดี และเราสามารถละเว้นการดื่มสุราได้ เพราะมีปัญญา ความรอบรู้ว่า เป็นเหตุแห่งอกุศลกรรมทั้งมวล
ศีลหรืออะไรก็ตามที่ว่ายาก จะกลายเป็นของง่ายเพราะได้ลงมือทำด้วยกำลังใจ เราจึงไม่ควรแต่คิดจะรักษา แต่ต้องลงมือทำหากอยากจะประสบความสำเร็จ ต้องลงมือทำ ทุกสิ่งที่คิดว่ายากนั้นยากเพราะคิด แต่สัมฤทธิ์เพราะทำทั้งสิ้น
จากหนังสือเรื่อง เคล็ดวิชาศักดิ์สิทธิ์ ๗ พ้นเวร พ้นกรรม รวยฉับพลันต้องทำอย่างไร โดย อมตะ เทพรักษา
การล้างพิษ (Detox) เป็นกระบวนการที่ช่วยกำจัดสารพิษหรือสิ่งสกปรกที่สะสมในร่างกายออกไป อาหารจัดได้ว่าเป็นยาที่ดีที่สุด อาหารบางประเภทสามารถช่วยในกระบวนการนี้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติในการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไปนี้คือ 10 อาหารที่ช่วยในการล้างพิษ: 1. มะนาว มะนาวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับสารพิษออกจากร่างกาย… อ่านเพิ่มเติม..
ข้อเข่า โดยทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายบานพับ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรือออกกำลังกาย การดูแลข้อเข่าอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการเสื่อมก่อนวัย และลดปัญหาอาการปวดหรือข้ออักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้ อาหารบำรุงข้อเข่าให้เสื่อมช้าลง ปลา ที่มีโอเมก้า 3 เช่น โดยเฉพาะอาหารทะเล เช่น… อ่านเพิ่มเติม..
• ท่านพระมหาโมคคัลลานะ พระเถระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระโคตมพุทธเจ้า เป็นพระอสีติมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก คู่กับพระสารีบุตร ผู้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่า "โกลิตะ" เป็นบุตรพราหมณ์ท้ายบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงราชคฤห์ โกลิตมาณพ เป็นเพื่อนสนิทกับอุปติสสมาณพ หรือ พระสารีบุตร… อ่านเพิ่มเติม..
พระพุทธเจ้าทรงแสดงอุบายแก้ง่วงแก่พระโมคคัลลานะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ในหมู่บ้านโกลิตคาม ได้ชื่อว่า “โกลิตะ” ตามชื่อของหมู่บ้าน มารดาชื่อโมคคัลลี คนทั่วไปจึงเรียกท่านว่า “โมคคัลลานะ” ตามชื่อของมารดา ท่านเป็นสหายที่รักกันมากับอุปติสสมาณพ (พระสารีบุตร) เที่ยวแสวงหาความสุขความสำราญ ตามประสาวัยรุ่น และพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย… อ่านเพิ่มเติม..
บทสวดมนต์ประจำวันเกิด แบบเต็มและแบบย่อทั้ง 7 วัน ตามกำลังวัน สวดก่อนนอนชีวิตราบรื่น ร่มเย็น เสริมสิริมงคล ประโยชน์ของการสวดมนต์ก็คือทำให้จิตใจเราผ่องใส และจิตใจสงบมากขึ้น ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิด คือ พระพุทธรูปปางถวายเนตร บทสวดมนต์บูชาพระประจำวันอาทิตย์… อ่านเพิ่มเติม..
อาการท้องผูก ท้องอืด ถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายมากถึงชีวิตแต่ก็สร้างความอึดอัดไม่สบายท้อง หรืออาจลุกลามกลายเป็นโรคอันตรายในอนาคตได้ และที่สำคัญอาการเหล่านี้มักส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันโดยตรง! ผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยใยอาหาร ทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ผลไม้ 9 ชนิดช่วยขับถ่าย กากใยสูง แก้อาการท้องผูกชนิดไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.มะละกอสุก เป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงและหาทานง่าย… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.