ประวัติหลวงปู่ศิลา สิริจันโท เกจิดังภาคอีสาน

800
views
ประวัติหลวงปู่ศิลา

ประวัติหลวงปู่มหาศิลา

หลวงปู่มหาศิลา

หลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท (ศิลา สิริจนฺโท) เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2488 นามเดิมว่า “ศิลา นิลจันทร์” บิดานามว่า แก่น นิลจันทร์ และมารดานามว่า น้อย นิลจันทร์ เกิดที่บ้านเบิด ตำบลเบิด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ในช่วงนั้น ครอบครัวอพยพจากภาวะทุพภิกขภัยมาพำนักที่บ้านส้อง ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น ในปี พ.ศ. 2494 เมื่ออายุได้ 6 ปี ได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่อาศัย ณ บ้านเกิดของมารดา ที่บ้านธาตุประทับ (ในปัจจุบัน คือ บ้านยางกระธาตุ) อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด

หลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท บรรพชาเมื่อปี พ.ศ. 2500 ขณะอายุ 12 ปีเป็นสามเณร ที่วัดธาตุประทับ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย บ้านธาตุประทับ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด มีหลวงพ่อพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ติดตามพระอาจารย์ออกร่วมคณะธุดงค์ไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างเดินธุดงค์ มีโอกาสอุปัฏฐากพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี คือ พระครูสีลขันธ์สังวรณ์ (อ่อนสี สุเมโธ) ที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และได้รับคำสอนผญาธรรม (หรือ คำสอนอีสาน) จากพระธรรมราชานุวัตร (แก้ว กันโตภาโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม

อุปสมบทครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2509 เมื่ออายุย่าง 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดบูรพาภิราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระสิริวุฒิเมธี (พุทธา สิริวุฑฺโฒ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า “สิริจนฺโท” และได้ลาสิกขาเมื่อปี พ.ศ. 2521 ด้วยเหตุได้รับการวิงวอนจากญาติให้ลาสิกขาออกมาเป็นครูผู้ช่วยสอน ที่โรงเรียนธาตุประทับ และดูแลมารดารวมถึงญาติผู้ใหญ่ป่วยหนักเป็นเวลา 1 ปี

ต่อมา ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 อุปสมบทครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 34 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดมาลุวาคณาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย บ้านเกษมสุข ตำบลพลับพลา อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด มีพระสมุห์เป ปุญฺโญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระน้อย สีลวณฺโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดสมาน ธมฺมรกฺขิโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานามว่า “สุริยจิตฺโต” หลังอุปสมบทช่วงปี พ.ศ. 2522–2539 ย้ายไปพำนักที่วัดโนนเดื่อ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สลับกับวัดธาตุประทับ และได้ลาสิกขา เมื่อปี พ.ศ. 2539 ด้วยเหตุเกิดเหตุการณ์ทางครอบครัว ญาติเพียงคนเดียวป่วยจากโรค จนถึงแก่กรรมในเวลาต่อมา เมื่อหมดภาระหน้าที่ในครอบครัว กับการลาสิกขาออกมาอยู่ 8 เดือนแล้วกลับเข้าอุปสมบทใหม่

และในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2539 อุปสมบท ครั้งที่ 3 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดแสงประทีป สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตำบลหมูม้น อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระครูวิธานสมณกิจ (อำนวย จนฺทสาโร) เจ้าอาวาสวัดแสงประทีป และเจ้าคณะตำบลหมูม้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า “สิริจนฺโท” และได้พำนัก ที่วัดธาตุประทับ สลับกับการออกจาริกธุดงค์ ที่บ้านพรานเหมือน ตำบลบ้านขาว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

ในปี พ.ศ. 2565 มีการญัตติ ทัฬหีกรรมนับอายุกาลพรรษาต่อเนื่อง เป็นพระภิกษุสังกัดธรรมยุติกนิกาย ที่วัดบึงพระลานชัย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระพรหมวชิรโสภณ (ศรีจันทร์ ปุญฺญรโต) เจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดบึงพระลานชัย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์

หลวงปู่พระมหาศิลาเริ่มเรียนนักธรรม ในปี พ.ศ.2500 ขณะอายุ 12 ปี สอบไล่ได้นักธรรมตรี ที่สำนักศาสนศึกษาวัดธาตุประทับ จังหวัดร้อยเอ็ด และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501–2503 สอบไล่ได้นักธรรมโท และนักธรรมเอก และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506–2515 สอบไล่ได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ถึงเปรียญธรรม 6 ประโยค เมื่ออายุ 26 ปี ที่สำนักศาสนศึกษาวัดบูรพาภิราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

หลวงปู่พระมหาศิลาได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว อ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจากสปป.ลาว หลายฉบับศึกษาจนแตกฉาน

หลวงปู่มหาศิลา

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา หลวงปู่พระมหาศิลาได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาดซึ่งเคารพนับถือท่านมากได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏิถวายหลวงปู่ศิลาได้จำพรรษาตลอดมา พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้มีความเลื่อมใสในองค์หลวงปู่ได้นิมนต์ท่านขึ้นไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ และหลายวัดในภาคอีสานจะกราบอาราธนาหลวงปู่ไปร่วมปรกแทบทุกงาน เนื่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตาเรื่องพุทธาคมวัตรปฏิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์

ในปี พ.ศ. 2559 หลวงปู่พระมหาศิลาออกจาริกไปบ้านหนองแซง ตำบลแจ้ง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และได้ออกจาริกในปี พ.ศ. 2565 เกิดอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจขาดเลือด และพักรักษาตัว ที่กุฎีอโรคยาปรมาลาภา เสนาสนะสงฆ์ พระธาตุจอมศรีสัมมาสัมพุทธเจดีย์ จังหวัดมหาสารคาม และในปัจจุบัน พระราชวัชรธรรมโสภณพำนักอยู่ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท ป. ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์

30 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชวัชรธรรมโสภณ โกศลบริหารวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

ขอบคุณ เจ้าของภาพ/ข้อมูล

  ถมนคร เครื่องถมเมืองนคร