“ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย เราจงร่วมใจยืนตรง เคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย”
ในอดีต 10 ธันวาคม 2482 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ประกาศใช้เพลงชาติไทยเพลงใหม่ซึ่งใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเพลงชาติฉบับที่ 7 นับแต่มีขึ้นครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 5 ประพันธ์โดย พันเอก หลวงสารานุประพันธ์ แทนฉบับเดิมของ พระเจนดุริยางค์
ในปี พ.ศ. 2482 “ประเทศสยาม” ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ประเทศไทย” รัฐบาลจึงได้จัดประกวดเนื้อร้องเพลงชาติไทยใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงชื่อประเทศ โดยกำหนดเงื่อนไขยังคงใช้ทำนองของพระเจนดุริยางค์อยู่เช่นเดิม แต่กำหนดให้มีเนื้อร้องความยาวเพียง 8 วรรคเท่านั้น และปรากฏคำว่า “ไทย” ซึ่งเป็นชื่อประเทศอยู่ในเพลงด้วย ผลการประกวดปรากฏว่าเนื้อร้องของพันเอกหลวงสารานุประพันธ์ ซึ่งส่งประกวดในนามกองทัพบกได้รับรางวัลชนะเลิศ รัฐบาลไทยจึงได้ประกาศรับรองให้ใช้เป็นเนื้อร้องเพลงชาติไทย โดยแก้ไขคำร้องจากต้นฉบับที่ส่งประกวดเล็กน้อย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2482 และใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
…..ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐไผทของไทยทุกส่วน
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัย ชโย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2562 รัฐบาลได้จัดทำวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทย (MV) เวอร์ชั่นแรกบนแผ่นดินรัชกาลที่ 10 และถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่วีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยได้ถูกนำเสนอด้วยความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K โดยใช้ออกอากาศเพื่อให้คนไทยยืนตรงเคารพธงชาติในเวลาแปดโมงเช้า และหกโมงเย็นของทุกวัน