ในยุคที่ที่จอดรถหายากกว่าทองคำ ทำให้ใครหลายคนต้องจับจองที่จอดรถอย่างยากลำบาก แต่รู้หรือไม่? ว่าการวางวัตถุสิ่งของบนถนนเช่น การนำป้าย หรือวางสิ่งของต่างๆ เพื่อจอง หรือกั๊กที่จอดรถไว้ให้ตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่จราจรนั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย “มีความผิด โทษปรับปรับไม่เกิน 10,000 บาท”
ทั้งนี้ ค่าปรับที่ได้จากการเปรียบเทียบปรับ ให้แบ่งแก่ผู้แจ้งที่ถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐานกึ่งหนึ่ง และพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมกึ่งหนึ่ง
(มาตรา 19, 48 วรรค 3 และ 57 แห่งพ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535)
มาตรา 19 “ห้ามมิให้ ตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน เว้นแต่เป็นการกระทําในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกําหนดด้วยความเห็นชอบของเจ้าพนักงานจราจร” ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ (ซึ่งมีการบังคับใช้ในพื้นที่เขตเทศบาล, สุขาภิบาล, กรุงเทพฯ, เมืองพัทยา และบางพื้นที่) หากพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ท่านสามารถถ่ายภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ได้ในทันที โดยผู้แจ้งจะได้รับส่วนแบ่งจากการเปรียบเทียบปรับ 50%
และในกรณีของพื้นที่ที่ไม่ได้บังคับใช้ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ผู้กระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้ ก็ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ม.114 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท และ ป.อาญา ม.385 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
วิธีการแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด
กรมการขนส่งทางบก ให้แจ้งเบาะแสคนทำผิดรับส่วนแบ่งค่าปรับ 50%
กรมการขนส่งทางบก ได้ออกระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายสินบนรางวัล และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ให้ประชาชนสามารถส่งพฤติการณ์การกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 โดยผู้แจ้งจะได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ 50% หลังหักเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้ว เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างวินัยและความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ผู้แจ้งส่งหลักฐาน พฤติการณ์การกระทำความผิดที่แจ้งต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ครบถ้วน เช่น ภาพหรือคลิปวิดีโอ ต้องบันทึกการกระทำความผิดที่ชัดเจน วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รายละเอียดรถ ทะเบียนรถ และอื่นๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ผู้แจ้งต้องระบุชื่อและนามสกุลของผู้แจ้ง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ ช่องทางการติดต่อ และในกรณีผู้แจ้งประสงค์จะขอรับเงินส่วนแบ่งค่าปรับ ให้ระบุหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้แจ้งด้วย โดยข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกปกปิดเป็นความลับ
2. ช่องทางในการติดต่อ เมื่อรวบรวมหลักฐานครบถ้วนแล้ว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่
- สายด่วน 1584
- Line: @1584DLT
- Facebook: 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ
- เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb หรือ https://www.dlt.go.th
- E-mail: dlt_1584complain@hotmail.com
- เดินทางมาร้องเรียนด้วยตนเอง
3. ผู้แจ้งจะได้รับข้อความ SMS ยืนยันการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน
4. กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการตามกระบวนสืบข้อเท็จจริง โดยเรียกตัวผู้ถูกร้องเรียนมารายงานตัวและสอบสวนจนได้ข้อยุติ โดยจะมีการแจ้งความคืบหน้าให้ผู้แจ้งทราบทาง SMS เป็นระยะจนกว่าจะได้ข้อยุติ
5. การรับเงินส่วนแบ่งจะได้รับภายหลังจากที่ผู้กระทำความผิดได้ชำระค่าปรับตามข้อหาความผิดแล้ว จะมีข้อความ SMS ส่งให้ผู้แจ้งทราบผลการดำเนินการและจะดำเนินการโอนเงินส่วนแบ่งค่าปรับตามบัญชีธนาคารที่ให้ข้อมูลไว้