กาญจนบุรี- สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ช้างป่าห้วยเขย่ง ทองผาภูมิ ตายครั้งเดียว 5 ตัว เหตุลงเล่นน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ สลดตายมาแล้ว 2 เดือน พบเหลือแต่ซาก
วันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ช้างป่าห้วยเขย่ง ทองผาภูมิ ได้นำภาพช้างป่าจำนวน 5 ตัว เสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ สภาพเน่าเปื่อยเหลือแต่กระดูกมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับบรรยายรายละเอียดเอาไว้ว่า
“เส้นทางสู่ความตาย ขอให้ดวงวิญญาณของพี่ใหญ่ทั้ง 5 ชีวิต จงไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าชาตินี้ สาธุ” หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กได้ไม่นาน มีสมาชิกเข้าไปแสดงความคิดเห็น พร้อมสอบถามข้อมูลเพื่อต้องการทราบรายละเอียดเป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ ยังมีผู้เข้าไปแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าบ้านชะอี้ หมู่ 7 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แต่ยังไม่ทราบว่าอยู่ในเขตอุทยานฯ หรือไม่
ล่าสุด นายพิเชษฐ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบว่า เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านชะอี้ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ว่า มีชาวบ้านได้เข้าไปหาของป่า บริเวณป่าเหมืองสองท่อ พิกัดที่ 47P 477562E 16238442N พบช้างป่าตกลงไปในหลุมประมาณ 4-5 ตัว
โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ ปรากฏว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่ 1 ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู
พบซากช้างในบ่อหลุมยุบ สภาพการตายแล้วประมาณ 2 เดือน เป็นช้างโตเต็มวัย 2 ตัว ช้างรุ่น 1 ตัว และลูกช้าง 2 ตัว มีสภาพเน่าเปื่อยเห็นโครงกระดูก ไม่สามารถพิสูจน์เพศได้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ดำเนินการจัดทำบันทึกตรวจสอบร่วมกับผู้ใหญ่บ้านหมูที่ 7 บ้านชะอี้ เพื่อนำไปลงบันทึกประวันไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับซากช้างดังกล่าว ทางอุทยานฯ จะได้ทำการโรยปูนขาว และร่วมกับชุมชนในการดำเนินการฝังกลบ โดยเหตุเกิดนอกเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในเขตป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่ 1 บ้านชะอี้ หมู่ที่ 7 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยพื้นที่ดังกล่าวเกิดจากการยุบตัวของดิน ซึ่งสภาพใต้ดินเป็นอุโมงค์จากการทำเหมืองใต้ดิน ซึ่งสภาพโดยทั่วไปมีการยุบตัวอยู่หลายหลุม ทำให้เป็นอันตรายต่อสัตว์และมนุษย์ที่เข้าไปในพื้นที่ เห็นควรให้ผู้นำหมู่บ้านจัดทำป้ายเตือนภัย