ยายวัย 70 ปี กับหญิงอายุ 48 ปี ชาว อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โวยตำรวจไม่ให้ประกันตัว ปลูกกัญชาคนละต้นไว้รักษาโรค ถูกจับอยู่ในห้องขัง เสียอิสรภาพ 24 ชม.
วันนี้ (22 มี.ค. 65) ที่บ้านโคกสูง หมู่ที่ 2 ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นางนาง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี พร้อมด้วย นางบุญเส็ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 10 คน โดยร้องเรียนพร้อมแสดงบันทึกการจับกุมโดยไม่มีหมายจับ ของ สภ.อุบลรัตน์ ลงวันที่ 19 เดือน ม.ค. 65 เวลา 10.50 น. โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ดิเรกฤทธิ์ ปารเรือนแสน ผกก.สภ.อุบลรัตน์ และ พ.ต.ท.ดรัลพร พรมตู้ รอง ผกก สส. สภ.อุบลรัตน์ ซึ่งมีมี พ.ต.ท.ภานุพงศ์ บุตรสามาลี สว.สส.สภ.อุบลรัตน์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปราศาสตร์ เทาดี รอง สว.สส.สภ.อุบลรัตน์ และกำลังฝ่ายสืบสวน
โดยตำรวจฝ่ายสืบสวนดังกล่าวได้ร่วมกันจับกุม นางนาง และนางบุญเส็ง ของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาสด) ลักษณะเป็นต้น จำนวน คนละ 1 ต้น สูงประมาณ 140 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 300 กรัม ปลูกอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้แจ้งข้อหา “ผลิต(ปลูก)และมียาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชาสด) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้ปลูก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการบำบัดรักษา” จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นางนาง เผยว่า ตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจะทำการจับกุมกัญชา มีหลานไปแจ้งที่บ้านเพื่อนอีกหลัง คนนึกว่ามีคนมาเหาเรื่องการรื้อท่อประปาออกจากที่นา จึงเดินทางเข้าบ้านถามว่าใครที่มารอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าพวกผมเอง และบอกว่า กัญชานี่เป็นของยายไหม ตนเองก็บอกว่าอยู่ที่หน้าบ้านยายก็ต้องเป็นของยาย ทางตำรวจถามว่าไม่รู้เหรอว่าผิดกฎหมาย ตนแจ้งว่า ทราบดี แต่ที่ปลูกเพื่อที่จะต้มกินทำการรักษาโรค ซึ่งตัวของยายเองเป็นศูนย์รวมของโรค หลานที่โดนจับข้างบ้านก็เป็นโรค ปลูกไว้นำใบมาต้มกินในตอนเช้า เพราะเป็นยาดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวขึ้นรถ พร้อมบอกว่าเดี๋ยวก็กลับมา จึงบอกกับหลานให้รออยู่ที่บ้าน เมื่อถึงโรงพักทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัว ด้วยความงง ตนจึงเอ่ยปากกับตำรวจว่า เท่ากับว่าหลอกพวกยายมาเข้าคุกเหรอ ทำไมตำรวจหลอกเก่งจัง โดยตำรวจแจ้งสาเหตุว่า ปลูกกัญชาเป็นยาเสพติดเลยไม่ให้ประกันตัว ซึ่งตนก็แย้งว่ามีแค่คนละต้น เมื่อตำรวจไม่ให้ประกันตัว ลูกชายที่เป็นทนายความอยากพูดกับร้อยเวรฯ ตำรวจอ้างว่าไม่คุยด้วย ตนเองคะยั้นคะยอว่าคุยกันสักคำสองคำก็ยังดี หลังจากคุยกับลูกชายทางร้อยเวรก็ไม่ให้ประกัน ลูกชายเลยถามว่า ต้องการทุนประกันเท่าไหร่ ทางพนักงานสอบสวนอ้างว่าไม่ขอคุยด้วย
นางนาง บอกอีกว่า จากนั้นในวันที่สองของการอยู่ห้องขังโรงพัก หลังจากข้ามคืนที่ตนเองนอนอยูในห้องควบคุม พนักงานสอบสวนมาบอกว่า ยายจะประกันตัวในวงเงินใช่ไหม ยายตอบว่าใช่ พร้อมบอกว่าแล้วทำไมไม่พูดว่าจะให้ประกันตั้งแต่เมื่อวาน จนเลยมาอีกวัน ทำให้ต้องนอนในห้องขัง จากนั้นจึงออกมาบันทึกข้อความ พร้อมกับประกันตัวคนละ 10,000 บาท เท่ากับว่าตนเองเสียอิสรภาพเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยหนังสือบันการจับกุมตนเองก็งงว่าลงวันที่ 19 เดือน ม.ค. 65 ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว แต่การจับกุมเกิดขึ้นวันที่ 19 มี.ค. 65 และก็แค่ปลูกกัญชาเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาโรคเท่านี้ ต้องจับกุมกันขึ้นโรงพัก แถมจะประกันตัวก็ไม่ให้ประกัน ต้องขอความเป็นธรรมจากผู้เกี่ยวข้องด้วย
ด้าน พ.ท.ประสาร แสงสว่าง ประธานผู้สมัครอีสานตอนบนพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประภาส น้อยเลาหะกุล สมาชิกพรรคฯ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีรวมไทย เผยว่า หลังจากท่านหัวหน้าพรรค คือ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน จึงได้สั่งการให้ผู้สมัครในภาคอีสานตอนบนเข้ามาดูแล ให้กำลังใจ พร้อมให้การช่วยเหลือในเรื่องคดี เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่ส่อไปในทางทำเพื่อการค้า เป็นเพียงเพื่อการบำบัดรักษาโรค พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลดล็อกพืชกัญชา พร้อมกับเรื่องคดีต่อไป
