จ.นครราชสีมา -หัวอกพ่อผู้สูญเสีย ขอให้ลูกชายเหยื่อ รับน้องโหด เป็นศพสุดท้าย อย่าเกิดขึ้นกับใครอีก ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่งศพให้นิติเวชฯ รพตำรวจ ผ่าชันสูตร
ความคืบหน้ากรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา แอบจัดกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ จนเป็นเหตุทำให้ น้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 ระดับ ปวส. แผนกช่างกลโรงงาน เสียชีวิต สาเหตุถูกรุ่นพี่ปี 2 ชกที่หน้าอกเหนือลิ้นปี่จนหมดสติ ก่อนเสียชีวิตอย่างน่าสลด
ล่าสุดวันนี้ (15 มี.ค. 65) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกชัย พร้อม นางนิตยา พ่อและแม่ของน้องเปรม เดินทางมาติดต่อโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อประสานงานส่งร่างของน้องเปรมไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากเบื้องต้นพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีนี้ ยังไม่สามารถยืนยันชัดเจนว่า น้องเปรมเสียชีวิตจากการถูกชกที่หน้าอกอย่างรุนแรงหรือไม่ หรืออาจมีสาเหตุอื่นร่วมด้วย เพราะมีกระแสข่าวว่า น้องเปรมติดเชื้อโควิด-19 ด้วย แต่เป็นเชื้ออ่อนๆ
พ่อของน้องเปรม กล่าวน้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกเสียใจจนเป็นลมล้มพับ หลังทราบข่าวลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าน้องเปรมถูกรุ่นพี่ 5-6 คน รุมทำร้าย และถูกชกที่หน้าอก 1 ครั้ง จนล้มฟุบหมดสติและเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น เคยเห็นแต่ในข่าวในอดีตมีการรับน้องโหด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกตัวเอง คนที่เสียใจที่สุด คือ พ่อแม่ ที่ต้องมาสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อว่าถูกชกเพียงครั้งเดียวจนเสียชีวิต เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรง และเป็นนักกีฬาฟุตบอล ส่วนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุได้มากราบขอขมาแล้ว ตนก็ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก อยากให้ลูกชายเป็นคนสุดท้าย ยืนยันต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยดังกล่าว เผยว่า ได้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าเป็นกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่พารุ่นน้องรวมกันประมาณ 30 คน จัดกิจกรรมรับน้องนอกรั้วมหาวิทยาลัย ลักลอบหรือแอบจัดกันเอง โดยที่อาจารย์ไม่รู้ไม่ทราบ เพราะมหาวิทยาลัยมีกฎระเบียบห้ามรับน้องอย่างเคร่งครัด และไม่เคยเกิดเหตุการณ์นักศึกษารับน้องโหดในรอบ 14-15 ปีมาแล้ว ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเรื่องดำเนินคดีผู้กระทำผิด และวางบทลงโทษนักศึกษาผู้กระทำผิดตามระเบียบของมหาวิทยาลัย มีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก อย่างไรก็ตาม พร้อมให้การดูแลเยียวยาและช่วยเหลือผู้ปกครองอย่างเต็มที่ที่สุด
ขณะที่ รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า นักศึกษารุ่นนพี่นำรุ่นน้องมารับน้องนอกมหาวิทยาลัยจริง ซึ่งอยู่นอกเขตมหาวิทยาลัย 8 กิโลเมตร ก็อยากให้เป็นศพสุดท้าย แต่เราก็ไม่อยากให้เกิดเรื่อง ซึ่งมหาวิทยาลัยก็ยังไม่เปิดเรียน
พ่อเหยื่อรับน้องโหดขอให้ลูกเป็นศพสุดท้าย ยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่งศพให้นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ ผ่าชันสูตร