ภายในโบสถ์วิหารที่ใหญ่โต หนุ่มน้อยปักธูปสามดอกลงในกระถางธูปด้วยความบรรจงแล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ลูกช้างใคร่ขอพรจากท่าน ขอให้สอบได้ตำแหน่งจอหงวนสมดั่งปราถนา” หนุ่มน้อยเดินจากไป
พระองค์ยิ้มแต่ไม่พูดใดๆ พระอานนท์ที่ประดิษฐานอยู่ข้างๆ ถามพระองค์ว่า “ท่านครับ หนุ่มน้อยก็ได้ขอพรอย่างตั้งใจ และก็ขอในสิ่งดีงาม ทำไมจึงไม่ประทานพรให้เขาให้สมหวัง”
พระองค์ได้แต่ยิ้มและตอบว่า “ยังขาดธูปอีกดอก” พระอานนท์หันมองธูปในกระถางก็มีครบอยู่ทั้งสามดอก รู้สึกสับสนงงงวย
สิบปีผ่านไป
หนุ่มน้อยซึ่งบัดนี้กลายเป็นหนุ่มหล่อกำยำล่ำสัน สิบปีที่แล้วถึงแม้จะไม่สามารถสอบติดตำแหน่งจอหงวน แต่ได้ตัดสินใจหันไปสมัครเป็นทหาร กลับมีผลงานดีเด่นเกินคาด จนได้ตำแหน่งใหญ่โตในกองทัพ กลับบ้านมาคราวนี้ ก็เพื่อจะเข้าสู่พิธีวิวาห์ ชายหนุ่มปฏิบัติตัวเหมือนเคย ปักธูปสามดอกพร้อมอธิษฐาน
“ขอท่านคุ้มครองให้ภรรยาเป็นคนดี ครอบครัวเป็นสุข” พระอานนท์รู้สึกซาบซึ้ง แต่เห็นพระองค์ท่านได้แต่ยิ้ม แต่ไม่พูด จึงถามว่าเหตุใดพระองค์จึงยังไม่ให้สมหวัง
พระองค์ตอบว่า “ก็ยังขาดธูปอีกดอก”
อีกสิบปีผ่านไป
บัดนี้ชายหนุ่มกลายเป็นชายวัยกลางคน เริ่มมีริ้วรอยย่นบนหน้าผาก ที่ผ่านมาเนื่องจากมี คดีถูกพาดพิงในทางเสียหาย จากครอบครัวฝ่ายภรรยา จนมีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน จึงทำให้ตำแหน่งหน้าที่ถดถอยจนไร้ความสำคัญ สง่าราศรีในอดีตหายไปเกือบหมด คราวนี้มาไหว้พระด้วยความหงอยเหงา ขอพรจากพระองค์
“ขอให้ลูกๆ ตั้งใจเรียนหนังสือ เพื่ออนาคตที่ดีสำเร็จดั่งหวัง” พระอานนท์เหลียวมองพระองค์ พระองค์ยังคงได้แต่ ยิ้มและพูดว่า “ก็ยังคงขาดธูปอีกดอกเหมือนเคย”
และแล้วอีกสิบปีก็ผ่านไป
หนุ่มงามในอดีต ซึ่งบัดนี้กลายเป็นตาแป๊ะแก่ๆ ผมหงอกเต็มหัว เกษียณตนเองจากหน้าที่การงานอย่างผิดหวังกลับสู่บ้านเกิด เหมือนดั่งเคย จุดธูปสามดอกพร้อมอธิษฐานว่า
“ท่านครับมาขอพรแต่ละครั้งไม่เคยทำให้ลูกช้างได้สมหวังเลย แต่ครั้งนี้ขอท่านเป็นกรณีพิเศษ บิดาเสียชีวิต ตั้งแต่ลูกช้างยังเล็ก มีแต่มารดาที่เลี้ยงดูลูกช้างจนเติบ ใหญ่ด้วยความยากลำบาก บัดนี้ท่านอายุเยอะมากแล้ว ขอให้มารดาท่านมีร่างกายแข็งแรง มีบั้นปลายชีวิตที่มี ความสงบสุข แค่นี้ลูกช้างก็พอใจแล้ว”
พระอานนท์เป็นพระใจดี รับฟังด้วยความซาบซึ้งและสงสาร หันไปมองหน้าพระองค์ ปรากฏว่าพระองค์ยิ้ม อย่างพอใจ “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะประสาทพรให้เจ้าสมหวังเดี๋ยวนี้”
ชายชราเดินออกจากวัดอย่างเชื่องช้า แต่ยังเดินกลับไม่ถึงบ้านก็มีเสียงตีฆ้องร้องป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้านว่า ลูกชายทั้งสองของเขานั้นบัดนี้สอบได้จอหงวนทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊แล้วทางการได้ยังประกาศว่าข้อกล่าวหาของเขาพ้นมลทินหมด เชิญให้กลับเข้ารับตำแหน่ง หน้าที่การงานอีกครั้ง แล้วยังได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นอีกสามขั้น
แต่คราวนี้เขาปฏิเสธที่จะกลับไปรับตำแหน่ง ตัดสินใจอยู่บ้านเพื่อดูแลมารดาในยามแก่เฒ่า
สำหรับธูปดอกที่ขาดหายไปเกือบชั่วชีวิต บัดนี้มีควันธูปที่สวยงามได้ล่องลอยอยู่ในหัวใจเขาไปตลอดชีวิต
คนเราเกิดมาอย่าลืมถิ่นกำเนิด อย่าลืมบุญคุณคน โดยเฉพาะความกตัญญูรู้คุณต่อบุพการี การรู้คุณพ่อแม่ ลูกหลานเราก็จะได้ดูเป็นแบบอย่าง แล้วความสุขทางใจความสงบทางอารมณ์ จะนำพาสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตเราแน่นอน
“ขจรศักดิ์” แปลและเรียบเรียง