ตำรวจทางหลวงพัทลุง สกัดจับรถบรรทุก ลักลอบขน 5 “แรงงาน”เมียนมา” หลบหนีเข้าเมือง ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต และผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ สอบสวนรับสารภาพ
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพัทลุง-ตรัง พ.ต.ท.มีเดีย ปฐมพรวิวัฒน์ สว.สทล.2 กก.7 บก.ทล. สืบทราบและได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พงษ์อนันต์ สุวรรณโณ รอง สว.สทล.2 กก.7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง พัทลุง เข้าจับกุมนายมานพ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะขับรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีชมพู หมายเลขทะเบียน 70-5539 ประจวบคีรีขันธ์ พาแรงงานพม่าอีก 5 คนหลบหนีเข้าเมือง
โดยเจ้าหน้าที่สกัดจับ ได้บริเวณถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้น ในพื้นที ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอควนขนุน สอบประวัติ และตรวจเชื้อโควิด 19 ซึ่งจากการตรวจสอบแรงงานพม่าทั้งหมดพบไม่มีหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต ส่วนผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบ
ตำรวจสอบถามนายมานพ ฯ คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ บอกว่าตนเองได้รับว่าจ้างให้บรรทุกสิ่งของย้ายบ้านมาจากอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปส่งที่ จ.ภูเก็ต และได้รับการติดต่อจากรถอีกคันซึ่งเสียระหว่างทาง อยู่ในเขตอำเภอควนขนุน ให้ไปส่งแรงงานพม่าที่อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในราคา 8,000 บาท
โดยให้แรงงานต่างด้าวหลบซ่อนตัวปะป่นอยู่กับสิ่งของ และคลุมด้วยผ้าเต้นท์เพื่อหลบตาเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสกัดจับได้เสียก่อน
สำหรับแรงงานพม่าได้กล่าวผ่านล่ามว่าพวกตนได้เดินทางมาจากประเทศมาเลเชียโดยเข้ามาทางช่องธรรมชาติ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อจะเดินทางกลับประเทศเมียนมาร์ โดยจ่ายค่านายหน้าคนละ 3,500-4,000 เหรียญมาเลเชีย ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา นายมานพ ฯ คนขับ นำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือกระทำการอันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และ ช่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม และแจ้งข้อหา แรงงานพม่า ว่า เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาขยาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เครดิตแหล่งข้อมูล : เมืองลุงโพสต์
