เชียงใหม่ – เจอตัวจริงหลังถูกจับถึงกับเงิบ‼ เสี่ยพ่อหม้ายสายเปย์ ถูก รปภ.หญิง วัย 58 ปี อ้างเป็น ตชด.สาวสวย แช็ตลวงรัก หลอกโอนเงิน หลายครั้ง รวมกว่า 4 แสน แขนไม่ได้จับ หน้าก็ยังไม่เคยเห็น
วันนี้ (27 ต.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม จับกุม นางกัญญาภัทร งามสง่า อายุ 58 ปี ภูมิลำเนา อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 446/2564 ลงวันที่ 30 ก.ค. 64 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยสามารถจับกุมได้คาที่พักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นนำตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง ว่าถูกหญิงคนดังกล่าวอ้างเป็นตำรวจ ตชด. หลอกลวงให้หลงรักและหลอกยืมเงิน ทำให้ตนเองสูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท
นายประเสริฐ เล่าว่า ได้รู้จักกับหญิงคนดังกล่าวทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้แช็ตคุยกันจนถูกคอ โดยหญิงดังกล่าวอ้างว่าเป็นตำรวจธุรการ สังกัด ตชด.ใน จ.กาญจนบุรี อายุ 40 ปี และใช้รูปโพรไฟล์คนอื่นเป็นสาวสวยหน้าตาดี โดยบอกว่ายังโสด ตนเองเป็นพ่อหม้าย และทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งอสังหาริมทรัพย์ มีเงินมีทองในฐานะเศรษฐีคนหนึ่ง เมื่อคุยกันมานานกว่า 1 ปี จนสนิทสนม และให้เบอร์โทรศัพท์มา จากนั้นได้คุยกันทุกคืนวันละเป็นชั่วโมงจนหลงรัก
ต่อมาหญิงคนดังกล่าวที่อ้างว่าชื่อสวย เริ่มขอยืมเงิน อ้างหลายอย่าง ทั้งรถประสบอุบัติเหตุ น้องชายเสียชีวิตบ้าง พร้อมกับส่งภาพมาให้ดู ตนเองก็สงสาร ส่งเงินไปให้ครั้งละหลายพันจนถึงหลายหมื่นบาทจำนวนหลายครั้งจนจำไม่ได้ จนสุดท้ายบอกว่าจะลาออกจากราชการและย้ายมาอยู่ด้วยที่เชียงใหม่ ตนเองก็บอกว่าจะให้เงินใช้เดือนละ 3 หมื่นบาท เพื่อทดแทนเงินเดือนข้าราชการ
กระทั่งปลายเดือน ธ.ค. 63 หญิงคนดังกล่าวหลอกว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยที่เชียงใหม่ พร้อมกับขอเงินค่าเติมน้ำมันรถ 5,000 บาท ด้วยความดีใจตนเองจึงโอนเงินให้ 3,000 บาท ต่อมาหญิงดังกล่าวโทรมาอ้างว่าขับรถมาถึง จ.ลำพูน แต่น้ำมันหมด ตนจึงโอนให้อีก 2,000 บาท แต่สุดท้ายก็หายตัวไป จนทุกวันนี้ยังไม่ได้เห็นหน้าตัวจริง เชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงนำหลักฐานเป็นสำเนาการสนทนาเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง โดยที่ผ่านมาตนเองได้โอนเงินให้หลายครั้งจนจำไม่ได้ รวมแล้วคาดว่าอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท
นายประเสริฐ บอกอีกว่า หลังตำรวจจับกุมหญิงคนดังกล่าวได้ ทำให้รู้ว่ามีอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) และภาพก็ไม่ตรงกับโพรไฟล์ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งข้อหาฉ้อโกงและความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ด้าน พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง บอกว่า จากการตรวจสอบในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาพบมีการสนทนากับผู้ชายหลายคน ส่วนใหญ่เป็นหนุ่มใหญ่ไม่ต่ำกว่า 20 คน มีทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ อดีตข้าราชการ เชื่อว่ามีหลายคนถูกหลอกโอนเงินจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความ กลัวครอบครัวรู้และมีปัญหา ทำให้ผู้ต้องหายังลอยนวล จึงเลือกเหยื่อที่มีครอบครัวเป็นหลัก จนกระทั่งนายประเสริฐเข้าแจ้งความเอาผิด ซึ่งเมื่อนายประเสริฐเห็นหน้าตัวจริงวันนี้ถึงกับตกใจไม่ตรงปก ทั้งนี้จากการตรวจสอบการโอนเงินจำนวนหลายครั้งของผู้เสียหายพบว่าไม่ใช่จำนวน 2 แสนบาท แต่เมื่อรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 4 แสนบาท เนื่องจากโอนบ่อยจนจำไม่ได้ ส่วนคดีนี้อยู่ระหว่างขยายผล หากผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกหลอกให้ไปดูตัวได้ที่ สภ.สันกำแพง