น้ำส้มสายชูกลั่น การผลิตโดยวิธีธรรมชาติ จากการนำ เอทิลแอลกอฮอล์หมักกับ จุลินทรีย์เพื่อให้ได้กรดน้ำส้มที่บริสุทธิ์ใส ไม่มีตะกอน ให้รสชาติเปรี้ยว มีองค์ประกอบหลักคือกรดน้ำส้ม (กรดอะซิติก) น้ำส้มสายชูทั่วไปมีความเข้มข้นของกรดตั้งแต่ ๔ % ถึง ๘ % โดยปริมาณ และอาจสูงถึง ๑๘ % หากเป็นน้ำส้มสายชูที่ได้จากการดอง
น้ำส้มสายชูหมักโดยธรรมชาติยังมีกรดชนิดอื่น ๆ ในปริมาณเล็กน้อย เช่น กรดทาร์ทาริก และ กรดซิตริก มนุษย์รู้จักการผลิตและใช้น้ำส้มสายชูมาตั้งแต่สมัยโบราณ น้ำส้มสายชูเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหารยุโรป อาหารเอเชีย และตำรับอาหารอื่น ๆ และยังสามารถนำมากำจัดคราบได้อีกด้วย
รวมไปถึงมีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพเท้าของเรา น้ำส้มสายชูสามารถทะลุผ่านผิวหนังเข้าไป ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานดีขึ้น อวัยวะต่างๆทำงานดีขึ้น ป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ และถ้าเรานำน้ำส้มสายชูมาใส่ลงในน้ำแล้วนำไปแช่ เชื่อหรือไม่ว่า น้ำส้มสายชูนั้นช่วยรักษาสุขภาพของเราได้เป็นอย่างมาก มาดูกันดีกว่าน้ำส้มสายชู มีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อสุขภาพร่างกายของเรา
๑. ช่วยให้หลับสบาย แช่เท้าในน้ำส้มสายชูทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ปรับความสมดุลของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ถ้าทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยปรับปรุงให้การนอนของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหานอนไม่หลับ ฝันเยอะ ตื่นเช้า และอื่นๆ
๒. ขจัดความเมื่อยล้า การแช่เท้าในน้ำส้มสายชูช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับออกซิเจนของฮีโมโกลบิน ทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นหลังร่างกายขาดออกซิเจนเนื่องมาจากความเมื่อยล้า ทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานดีขึ้น ร่างกายปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ฟื้นฟูร่างกาย
๓. กำจัดของเสียในร่างกาย เท้าเป็นบริเวณที่ส่งผลต่อร่างกายแทบทุกส่วน การที่น้ำส้มสายชูสามารถทะลุผิวหนังเข้าไปได้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนโลหิต กระตุ้นการทำงานของอวัยวะ กำจัดของเสียในร่างกาย และป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ
๔. ทำให้ผิวชุ่มชื้น ในฤดูหนาวหลายๆคนจะเจอปัญหาผิวบริเวณเท้าแห้ง แช่เท้าในน้ำส้มสายชูติดต่อกัน ๑ สัปดาห์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผิวหนังบริเวณเท้าอ่อนนุ่ม แม้แต่ร่างกายส่วนอื่นๆและใบหน้าก็จะอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น มีออร่าเช่นเดียวกัน
๕. ป้องกันและรักษาเชื้อราในเล็บ ใช้น้ำส้มสายชู ๙ % หรือ ๑๐ % แช่เท้า ๓๐ นาทีทุกวัน หลังแช่เท้าปล่อยให้แห้งเอง ขณะแช่ใช้ภาชนะที่ทำจากแก้วจะดีที่สุด เพราะทนต่อการกัดกร่อนได้ดี
๖. ป้องกันโรคเหน็บชา ใช้น้ำส้มสายชู ๙% แช่เท้า เพิ่มปริมาณน้ำส้มสายชูใหม่ตามที่ลดลงไป ทำซ้ำๆไปโดยเปลี่ยนน้ำส้มสายชูใหม่ทุก ๗-๑๐ วัน ทำติดต่อกันเป็นเวลา ๒ เดือน การใช้น้ำส้มสายชูแช่เท้าเป็นประจำ ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากการสวมใส่รองเท้าส้นสูง ยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายด้วย