วันที่ 29 กันยายน จ.ตรัง ตำรวจสภ.ห้วยยอดรับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 113 ม.8 บ้านพรุจูด ต.บางดี ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายของชำ ภายในบ้านบริเวณพื้นใต้โต๊ะ พบศพนายณัฐวุฒิ รัตนศักดิ์ อายุ 28 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .32 เข้าที่ขมับซ้าย 1 แผล คอซ้าย 1 แผล ท้องน้อยด้านซ้าย 1 แผล ใกล้กับร่างพบเหล็กชะแลง 1 อันตกอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายณัฐพงศ์ แก้ววงค์หาญ อายุ 25 ปี อาชีพรับซื้อน้ำยางสด ลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนพยาน ทราบว่าเห็นผู้ตายเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเหล็กชะแลง วิ่งบุกเข้ามาในร้าน ซึ่งตอนนั้นมีลูกจ้างกับแม่ผู้ตายอยู่ 2 คน โดยวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 ของตัวบ้าน และรื้อข้าวของกระจัดกระจาย เพื่อที่จะหาเงิน
โดยผู้ตายมีอาการคุ้มคลั่งพูดจาด่าทอและข่มขู่ ก่อนเดินลงกลับมายังชั้นล่าง ลูกจ้างและแม่ของผู้ก่อเหตุจึงได้วิ่งออกมาจากตัวร้าน ก่อนที่จะวิ่งไปตาม นายณัฐพงศ์ที่บ้านอยู่ติดกันให้เข้ามาช่วยเหลือ นายณัฐพงศ์จึงได้วิ่งเข้าไปภายในร้าน ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้นจำนวน 3 นัดจนผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว
ที่ผ่านมามีคนพบเห็นผู้ตายมีอาการคลุ้มคลั่งและอาละวาดอยู่เป็นประจำ
ด้านแม่ผู้ก่อเหตุเล่าว่า ผู้ตายเป็นคนที่เสพยาบ้ามาตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่งมาตลอด มักชอบทำลายข้าวของในบ้านและเพื่อนบ้าน เคยวางเพลิงเผาบ้านมาแล้วโชคดีที่ช่วยกันดับทัน
ส่วนกลางคืนจะไม่ค่อยนอนชอบมาปืนอยู่บนบ้านตนบ่อยครั้ง จนทำให้ทุกคนหวาดกลัว ผู้ตายเพิ่งพ้นโทษออกมาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน
ที่ผ่านมาเคยไปแจ้งความและแจ้งสายตรวจเข้ามาระงับเหตุบ่อย แต่ทางตำรวจได้แค่เพียงระงับเหตุ แต่ไม่สามารถจับกุมได้ ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนก็พยายามรักษาเขามาโดยตลอด และคอยรับผิดชอบการกระทำเขาตลอด เวลาที่ไปก่อเหตุทุบหรือทำลายข้าวของบ้านคนอื่นเสียใจที่ลูกตัวเองก่อเหตุครั้งนี้
ด้านนายสมนึก ยิ่งยง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนก้าวร้าวเป็นอย่างมาก ญาติได้โทรแจ้งตนเข้ามาบ่อย ทำให้ทางตำรวจและหน่วยกู้ภัยต้องเข้ามาระงับเหตุอยู่บ่อยครั้ง เพราะผู้ตายมักมีพฤติกรรมที่ชอบอาละวาด มาตั้งแต่ก่อนจะเข้าคุก และหลังจากพ้นคุก ทำให้ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านต่างเอือมระอาและหวาดกลัวกับมาตลอด
เบื้องต้นทางตำรวจได้รับมอบตัวนายณัฐพงศ์ ผู้ก่อเหตุ พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวไปยัง สภ.ห้วยยอด พร้อมทั้งเชิญผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ เพื่อดำเนินการรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐาน ประกอบสำนวนคดีดำเนินการขบวนการตามกฎหมายต่อไป
เครดิตแหล่งข้อมูล : ศรีตรังเคเบิลทีวี”คนข่าวท้องถิ่น”