เปิดอานิสงค์ “ถวายเทียนพรรษา
วันเข้าพรรษาเป็นวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงควบคุมให้พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาเป็นประจำ 3 เดือนในฤดูฝนและแรมแรมเดือน 8 เดือน 8 8 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ห้ามพระสงฆ์ไปเหยียบย่ำข้าวกล้าชาวนาให้ได้รับ มะนิลา
การแห่เทียนพรรษาเป็นประเพณีวันเข้าพรรษา ชาวพุทธที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมานับแต่รูปแบบพุทธกาลมักจะมีสไตล์ก่อนพระภิกษุสงฆ์ไม่มีไฟฟ้าใช้ประชาชนจึงหล่อเทียนต้นใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถถวายพระภิกษุสงฆ์จุดให้แนวทางในการปฏิบัติกิจวัตร ต่างๆเป็นพุทธบูชาตลอดเวลา ๓ สัปดาห์
เชื่อไปถวายประชาชนมักจะจัดขบวนแห่กันอย่างเอิกเกริกสนุกสนานและปฏิบัติกันมาจนกลายเป็นประเพณีการถวายเทียนพรรษา เชื่อเหตุผลประการที่สองคือนั่นคือ
๑. พระอนุรุทธะสาวกของพระพุทธเจ้าท่านผู้นำฉลาดเฉียบแหลมฉลาดรอบรู้พระธรรมวินัยอย่างแตกฉานเพราะในชาติปางก่อนพระอนุรุทธะเคยให้แสงประทีปเป็นทาน
๒. หญิงคนหนึ่งไปฟังธรรมที่เชตวนารามเมืองสาวัตถีพอพลบค่ำก็ให้คนไปนำประทีปที่บ้านตนมาจุดให้สำหรับคนแก่ที่มาฟังธรรมอีกครั้งนางตายไปก็ไปเกิดเป็นเทพธิดามีรัศมีเป็นอย่างสวยงามสวยงาม
ตามความเชื่อที่ว่าในการถวายเทียนพรรษาเป็นการให้ทานด้วยความเชื่อของอานิสงส์เพิ่มพูนปัญญาหูตาสว่างไสวรุ่งเรืองลาภยศสรรเสริญเพิ่นจากความมืดทั้งการดำเนินชีวิตภูมิปัญญาและความคิดที่สว่างไม่มองเห็นจนเห็นได้ชัด
ตามชนบทนั้นการหล่อเทียนเข้าพรรษาทำกันอย่างเต็มรูปแบบและสนุกสนานมากก่อนที่จะหล่อเป็นจำนวนมากแห่แหนรอบพระอุโบสถ 3 รอบแล้วนำไปบูชาพระตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์
งานประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นงานประเพณีที่รวมความภูมิปัญญาของชุมชนท้องถิ่น แห่เทียนพรรษา กลายเป็นงานประจำปีของทุกภูมิภาค
นี่เป็นงานแห่เทียนพรรษาเป็นงานของวัยรุ่นที่มีความสามารถได้มากที่สุดและศิลปินศิลปวัฒนธรรมสิ่งที่ดีที่จะสืบสานต่อไปประเพณีอันดีงามนี้..
เพื่อการถวายย่อมได้รับอานิสงค์คือ
1. การสร้างปัญญาทั้งชาตินี้และชาติหน้าเปรียบเหมือนเหมือนแห่งเทียน
2. ใครสว่างไสวรุ่งเรืองผู้ถวายย่อมทำให้มีเกียรติเรืองด้วยลาภยศสรรเสริญ
3. ไม่ต้องคลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
4. เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
5. ย่อมเป็นที่รักและเทวดาทั้งหลาย
6.เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
7. เมื่อลาลับโลกนี้จะไปสู่สุคติสวรรค์
8. หากบารมีมากพอย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุคือปัญญารู้แจ้งต่อหน้าพระนิพพาน