จ.เชียงใหม่ [ 22 ก.ย. ] เด็กชาย ม.2 วัย 14 ขอเงินพ่อแม่ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ หวังใช้เรียนออนไลน์ กลับถูกคนขายโกง เด็กชายเกิดความเครียดสะสมจนเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตลง
ภายหลังโซเชียลมีการแชร์เรื่องราวของ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่เก็บเงินมาสั่งซื้อมือถือยี่ห้อดังมือสองราคา 5,000 บาท ที่โพสต์ขายทางอินสตาแกรม แต่เมื่อโอนเงินไปกลับถูกบล็อกไม่ส่งของให้ จนน้องเอเกิดอาการเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตสลด จึงเดินทางไปตรวจสอบที่พบพ่อเด็กอายุ 55 ปี และแม่เด็ก อายุ 38 ปี กำลังจัดงานศพให้ ด.ช.เอ ที่บ้านพักใน อ.เชียงดาว บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ทั้งสองเปิดเผยว่า พวกตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีลูก 2 คน น้องเอ กับน้องชายวัย 3 ขวบ โดยมีลุงกับป้าที่อยู่บ้านอีกหลังพื้นที่เดียวกันคอยช่วยดูแล ซึ่งช่วงนี้ลูกต้องเรียนออนไลน์จึงพยายามเก็บเงินซื้อโทรศัพท์เพื่อจะได้เรียนเหมือนคนอื่นจนเก็บเงินได้ส่วนหนึ่งแล้วมาขอพวกตนอีกส่วนหนึ่ง ก่อนไปเลือกหาซื้อโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต กระทั่งพบรุ่นยี่ห้อที่ถูกใจที่ร้านค้ามือถือออนไลน์ชื่อ phonebymint จึงติดต่อขอซื้อในราคา 5,000 บาท และโอนเงินไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
พ่อกับแม่น้องเอ เล่าอีกว่า จากนั้นผ่านไปประมาณ 10 วัน ยังไม่ได้รับโทรศัพท์จึงพยายามติดต่อไปปรากฏว่าถูกบล็อกทุกช่องทาง ทำให้ลูกชายเสียใจมาก ร้องไห้อยู่หลายวันจนเริ่มมีอาการซึม เหม่อลอย ทานอาหารไม่ค่อยได้ ก่อนมีอาการเวียนหัว กระทั่งวันที่ 17 ก.ย. ปวดหัวรุนแรงและทรุดหนัก นำตัวส่ง รพ.เชียงดาว พบว่าเส้นเลือดในสมองแตก ต้องส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แล้วเสียชีวิตในที่สุด
พ่อแม่น้องเอ เผยว่า เสียใจมากที่สูญเสียลูก เชื่อว่าสาเหตุจากความเครียด เสียใจผิดหวังอย่างหนัก เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน แม้พวกตนจะพยายามปลอบใจว่าไม่ต้องเสียใจ เงิน 5,000 บาท จะหาให้ใหม่ แต่ลูกก็บอกว่าไม่เอาเพราะสงสารพ่อแม่ และบอกว่าได้ไปแจ้งความไว้แล้ว จึงอยากวอนขอตำรวจ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ติดตามจับกุมตัวคนที่กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเพราะไม่อยากให้ไปโกงใครอีก
พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า คดีนี้รับแจ้งความไว้แล้วอยู่ระหว่างการประสานรวบรวมหลักฐานติดตามตัวผู้ที่ใช้อินสตาแกรมดังกล่าว และเจ้าของบัญชีที่รับโอน เบื้องต้นตรวจพบว่าเป็นบัญชีพร้อมเพย์ผูกกับธนาคารและทราบชื่อเจ้าของบัญชีแล้ว แต่ตรวจพบว่าผู้ชื่อสกุลตรงกัน 2 คน อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาสอบสวนว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรและเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริงมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ส่วนพฤติกรรมเข้าข่าย ฉ้อโกง และ นำเข้าซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ หลอกลวง ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภาค 5 หัวหน้าชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว ได้รับคำสั่งจากพล.ต.ท.ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 ให้ร่วมสืบสวนสอบสวน เพราะเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงได้ประสานไปยังศูนย์ประสานข้อมูลจากทางพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย และรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าจะได้ข้อมูลหลักฐานที่จะสาวถึงตัวผู้ก่อเหตุตัวจริงมาสอบสวนดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ผบช.ภ.5ส่งทีมร่วมล่าตัว ‘แม่ค้าโกงม.2’ เครียดจนเส้นเลือดสมองแตกตาย… อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/298253/