หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นที่รู้จักในฐานะพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานผู้มีปฏิปทาที่มั่นคง แน่วแน่ เด็ดขาด และจริงจัง บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่นต่างนับถือกันว่าท่านเป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งที่มีปฏิปทาที่คล้ายคลึงกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
การกล่าวขวัญถึงท่านในหมู่ผู้ศรัทธามีหลายเรื่องค่อนไปในเชิงอภินิหาร เช่น การล่วงรู้วาระจิตของบุคคลอื่น การที่เศษผม เศษเล็บ และชานหมากของท่านกลายเป็นพระธาตุไปตั้งแต่ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่เป็นต้น
หลวงตามหาบัว ได้เคยเทศน์สั่งสอนญาติโยม และลูกศิษย์ในเรื่องการทำบุญไว้ เพื่อให้มีความเข้าใจในการทำบุญที่จะก่อให้เกิดบุญกุศลสูงสุดตามแบบที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญผู้ปฎิบัติในการทำบุญ โดยเรียกการทำบุญว่า “บุญสองอย่าง” ไว้ว่า
” .. การทำบุญมีสองอย่าง หนึ่ง “คือการสละทรัพย์เงินทองเพื่อสร้างถาวรวัตถุในพระศาสนา หรือการบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียนข้าวของ” เรียกว่า “อามิสบูชา”
ส่วนบุญอีกอย่างนั้น “คือการถือศีลภาวนา การทำสมาธิวิปัสสนา” เพื่อให้เกิดความรู้แจ้งแทงตลอด ให้เกิดเป็นปัญญา เป็นผู้รู้ ดังที่เราภาวนาว่า “พุทโธ” ซึ่งแปลว่า “ผู้รู้ ผู้ฉลาด” อันนี้เรียกว่า “ปฏิบัติบูชา” เป็นบุญอันสูงสุด
อันจะนำตนเองให้พ้นจากกองทุกข์ในโลกนี้ได้ ช่วยตัวเองได้ มิให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป “บุญข้อนี้เป็นบุญอันสูงสุดที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญผู้ปฎิบัติ”
การปฎิบัติบูชา เจริญวิปัสสนา ( การเจริญปัญญา ) จึงจะ เป็นการสร้างบุญกุศลที่สูงสุดยอดในพระพุทธศาสนา
ทั้ง “อามิสบูชา และ ปฎิบัติบูชานี้ เป็นเสมอนแม่น้ำสองสายที่ใสสะอาด” ไหลมารวมกันลงสู่แอ่งน้ำใหญ่อันอยู่ในห่วงหัวใจของเราเอง เป็นแหล่งน้ำอันเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ พร้อมที่จะนำความฉ่ำชุ่มเย็นไปทั่วทุกหัวระแหง
“เกิดคุณค่าและประโยชน์อันประมาณมิได้” ที่สายน้ำนั้นได้ซึมซาบผ่านไปยังถิ่นต่าง ๆ แอ่งน้ำในหัวใจเรา เป็นเสมือนเขื่อนกักน้ำไว้เพื่อประโยชน์ตนและผู้อื่น .. “