จ.ตรัง – อัศจรรย์น้ำมันกัญชาช่วย “น้องทัต” หนุ่มวัย 17 ปี ป่วยลมชักทนทุกข์ทรมานนานกว่า 10 ปี หลังหยดน้ำมันกัญชา อาการชักหายไปเกือบปี ผู้เป็นพ่อเผย อยากให้ภาครัฐเปิดช่องว่างให้สามารถปลูกกัญชาไม่ต่ำกว่า 1 ต้นได้ เพื่อนำมารักษาโรค
เมื่อวันที่ 16 ก.ย.64 นายเนติวิทย์ ขาวดี อดีตปลัดอาวุโส อ.กันตัง ในฐานะประธานสภากัญชา-กัญชงแห่งประเทศไทยประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นพ.จำรัส สรพิพัฒน์ ที่ปรึกษาแพทย์แผนไทยทางเลือก พร้อมด้วยคณะตัวแทนภาคีเครือข่ายสภากัญชาฯ จ.ตรัง ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 90/3 ม.7 บ้านทุ่งทวย ต.นาเมืองเพชร อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อร่วมเยี่ยมติดตามผล ของนายเทพทัต ขำณรงค์ หรือน้องทัต อายุ 16 ปี ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ลมชัก ( Dravet Syndrome ) ตามโครงการ ” ร่วมต่อลมหายใจ ให้แก่เพื่อนมนุษย์
หลังจากได้มอบน้ำมันกัญชา เพื่อรักษาอาการเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งผลจากการติดตามอาการหลังใช้น้ำมันกัญชาพบว่าผู้ป่วยไม่มีอาการชักมานาน 11 เดือน ต่างจากก่อนที่จะได้รับน้ำมันกัญชา ที่มักจะมีอาการชักเกือบทุกวัน บางวันชัก 10 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง มานานกว่า 10 ปี
ขณะที่ นายสาโรจช ขำณรงค์ หรือ ไข่ย่อง อายุ 47 ปี พ่อน้องทัต เผยว่า ลูกชายเริ่มมีอาการลมชักตั้งแต่ช่วงอายุ 7 ขวบ จนถึงตอนนี้ก็เป็นมานาน 10 ปี พักหลังนี้อาการน้องดีขึ้นหลังจากที่ใช้น้ำมันกัญชา ควบคู่กับยาตามที่แพทย์สั่งมา ตอนนี้ลูกชายไม่มีอาการชักมานานกว่า 11 เดือนแล้ว อาการน้องดีขึ้น อารมณ์เย็นลง นอนหลับ สมาธิดีขึ้นสามารถทำอะไรได้นานต่างจากเมื่อก่อนหน้านี้ที่เป็นคนอารมณ์ร้อน
ตนเชื่อว่าน้ำมันกัญชาสามารถรักษาโรคลมชักได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ใช้ยาตามแพทย์สั่งมาตลอด แต่ลูกก็ยังเป็นลมชักอยู่ตลอด ช่วงหนึ่งเดือนมีอาการประมาณ 10 ครั้ง ความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อหลังจากลูกไม่มีอาการชักแล้ว ก็รู้สึกว่าลูกชายกลับมาเป็นเหมือนเด็กปกติทั่วไปแล้ว
นายสาโรจช กล่าวด้วยว่า อยากฝากไปถึงท่านที่มีอำนาจ ตนมองว่าทางด้านกฎหมายนั้นอยากให้เปิดช่องให้สำหรับผู้ป่วยให้สามารถปลูกกัญชาไว้ใช้ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 ต้น จะได้นำกัญชาสดมาชงน้ำร้อนให้ลูกดื่มหรือนำไปปรุงอาหาร ตนมองมาตลอดว่าที่ผ่านมาหลังจากที่ต้องใช้ยารักษาอาการมาตลอด 10 กว่าปี เป็นค่าใช้จากจากภาครัฐ
แต่หากตนสามารถปลูกกัญชามารักษาโรคได้ จะสามารถแบ่งเบาภาระจากภาครัฐได้ระดับหนึ่ง หากประเทศไทยสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงก็สามารถช่วยได้มหาศาล รวมทั้งไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพด้วย
ด้านนพ.จำรัส กล่าวว่า อาการชักมีหลากหลายรูปแบบ มีอาการเกร็งหรือกระตุก รวมถึงอาการตาค้างสักพักหนึ่ง ก่อนจะนิ่งไปก็เป็นอาการชักเช่นเดียวกัน สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีอาการสมองเสื่อม มีความพิการทางสมองร่วมด้วย เป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้ยาก ค่อนข้างพบน้อย ช่วงที่รักษาตลอดระยะเวลา 10 ปี นั้นก็ต้องใช้ยาอยู่ แต่ก็ยังมีอาการชักเป็นระยะ ไม่สามารถรักษาได้หายขาดและต้องใช้ยารักษาตลอดชีวิต
การใช้ยาหลายอย่างอาจทำให้มีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยสูง จะมีปัญหาเรื่องของพัฒนาการทางสมอง มีความพิการทางร่างกาย เรื่องของกล้ามเนื้อ การทรงตัว การเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นด้วย ในต่างประเทศได้ใช้สารสกัดจากยางกัญชามีสารออกฤทธิ์กว่า 100 ชนิด โดยจะสกัดตัวยา ซีบีดี เพื่อมาใช้รักษาโรค และได้ผลสามารถควบคุมอาการของโรคที่ยาไม่สามารถควบคุมได้
“การใช้กัญชานั้นเป็นวิธีการให้ยาอีกรูปแบบหนึ่ง ต่างจากวิธีสูบเข้าไปที่ทำให้คนที่เสพมีอาการมึนเมาซึ่งเป็นการใช้ที่ผิด ซึ่งทางการแพทย์นั้นเราจะใช้ในระดับที่ไม่เป็นพิษ มีความปลอดภัยสูง จะทำให้เจริญอาหารได้ เป็นตัวยาเดี่ยวๆไม่ต้องสกัด เราต้องปรับโดสซึ่งผู้ใช้แต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน หลักการให้เริ่มจากน้อยที่สุด และปรับไปเรื่อยๆในระดับที่ได้ผลจะไม่ทำให้เมา คนไข้รายนี้คุณพ่อจะใช้วิธีเจือจางลงมาประมาณ 10 เปอร์เซ็น และใช้ 2 หยด วันละครั้ง ส่วนใหญ่จะใช้ไม่มาก จะทำให้มีความปลอดภัย” นพ.จำรัส กล่าว.
อัศจรรย์น้ำมันกัญชาช่วย “น้องทัต” หนุ่มวัย 17 ปี ป่วยลมชักทนทุกข์ทรมานนานกว่า 10 ปี