สรุปมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา ระดับ ปวช. เพื่อประกันรายได้ครูโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำที่ทางราชการกำหนด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2565
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูสำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่อยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้ได้รับเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูเพิ่มขึ้น 450 บาท/คน/ปี
โดยปรับอัตราจาก 8,582.50 บาท/คน/ปี เป็น 9,032.50 บาท/คน/ปี เท่ากับการอุดหนุนนักเรียนในโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.ปลาย) เพื่อประกันรายได้ครูโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำที่ทางราชการกำหนด โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณปีละ 97.4 ล้านบาท ครอบคลุมสถานศึกษาอาชีวศึกษา 484 แห่ง นักเรียนในสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชนระดับ ปวช. จำนวน 2 แสนกว่าคน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษา ให้มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนในการพัฒนาประเทศ
และเป็นการช่วยส่งเสริม สนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา โดยภาคเอกชนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระรัฐในการจัดการศึกษา ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล และเป็นการประกันรายได้ครูในสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชนให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำที่ทางราชการกำหนด ซึ่งจะครอบคลุมครูจำนวน 10,893 คน
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินการประสานงานกับสำนักงบประมาณ และจัดทำระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการต่อไป
สำหรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายบุคคลนักเรียนสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชนในปัจจุบัน ประกอบด้วย 1) ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน ซึ่งใช้ในอัตราเดียวกับนักเรียนภาครัฐ 2) เงินสบทบเป็นเงินเดือนครู ซึ่งเป็นอัตราที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอปรับและได้รับความเห็นชอบจาก ครม.ในครั้งนี้ 3) เงินอุดหนุนสมทบที่เป็นค่าธรรมเนียมการศึกษา
ครม. เห็นชอบ ปรับอัตราเงินอุดหนุน สมทบเป็น เงินเดือนครู เพิ่มปีละ 450 บาท
ดื่มกาแฟดำหลังอาหาร ลดการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก! กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันแล้ว!! ดื่มกาแฟดำหลังอาหาร ลดการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก จริง เพราะฉะนั้นควรระวัง หากจะดื่มกาแฟดำแต่กินอาหารเสริมแคลเซียมและธาตุเหล็กควรเว้นระยะห่าง อย่าดื่มต่อกันทันที ตามที่มีข่าวสารในสื่อต่าง ๆ เรื่อง ดื่มกาแฟดำหลังอาหาร… อ่านเพิ่มเติม..
เปิด 5 เคล็ดลับ วิธีการดื่มน้ำอย่างไร ให้เป็นยาดีต่อร่างกาย ตามหลักอายุรเวท อายุรเวท (ศาสตร์แห่งชีวิตในภาษาสันสกฤต) เป็นการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย มีวัตถุประสงค์เพื่อขจัดความสกปรกออกจากร่างกาย ลดอาการของโรค เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรค คลายความกังวล และเพิ่มความสมดุลในชีวิต แนวคิดหลักของอายุรเวทเชื่อว่า… อ่านเพิ่มเติม..
วันไหว้พระจันทร์ 🌙 ภาษาจีน คือ "中秋节" (จงชิวเจี๋ย) ส่วนวันไหว้พระจันทร์ภาษาอังกฤษ คือ Moon Festival หรือ Mid-Autumn Festival (เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง) เทศกาลไหว้พระจันทร์… อ่านเพิ่มเติม..
8 กันยายน วันการรู้หนังสือสากล องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 8 กันยายนของทุกปีเป็นวันการรู้หนังสือสากล (International Literacy Day) เพื่อส่งเสริมความสำคัญของการรู้หนังสือแก่ประชาชน ชุมชนและสังคม ภายใต้แนวคิดว่าด้วยการขจัดการไม่รู้หนังสือของประชากรโลก การรู้หนังสือจะเป็นโอกาสให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเสรี มีชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นจากการดำรงชีวิตและดำเนินชีวิตอย่างมีอิสรภาพ… อ่านเพิ่มเติม..
วันที่ ๑๙ กันยายน “วันพิพิธภัณฑ์ไทย” มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กำหนดวันที่ ๑๙ กันยายนของทุกปี เป็นวันพิพิธภัณฑ์ไทย ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 16/05/2538 .... ย้อนไปก่อนที่จะมีพิพิธภัณฑสถานสำหรับประชาชน พิพิธภัณฑสถานในประเทศไทย เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2376… อ่านเพิ่มเติม..
16 กันยายนของทุกปี วันโอโซนโลก (World Ozone Day) โอโซน เกิดจากการรวมตัวกันของออกซิเจน 3 อะตอม อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากมนุษย์สร้างขึ้น โอโซนมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นกับตำแหน่งในชั้นบรรยากาศ โอโซนในชั้นสตราโทสเฟียร์… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.