เสีย 9 แสนแขนไม่ได้จับ! หนุ่มใหญ่อ้างเสียรู้ มารยาสาวโซเชียล ตุ๋นขายบ้าน-ขายรถ โอนยับ 30ครั้ง

1649
views

หนุ่มใหญ่สายเปย์ร้องขอความช่วยเหลือ เจอสาวในเฟซบุ๊กหลอกให้หลงรัก ยอมขายบ้าน รถ โอนเงินให้ 30 ครั้ง สูญกว่า 9 แสน ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยเจอตัวจริง สุดท้ายถูกตัดช่องทางติดต่อหนีหาย เดือดร้อนหนัก

วันที่ 7 ก.ย.2564 นายสมาน สิงห์หล้า หนุ่มใหญ่อ้าง โดนสาวในโซเชียลหลอกให้โอนเงิน 9 แสนบาท พร้อมด้วย นายอาหรับ สิมมา และ นายก้องนภา สุวรรณสิงห์ เพื่อนสนิท ได้ร้องเรียนกับ รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงความเดือดร้อนกรณีโดนสาวในโซเชียลหลอกโอนเงินสูญกว่า 9 แสนบาท

นายสมาน สิงห์หล้า หนุ่มใหญ่อ้างโดนสาวในโซเชียลหลอกให้โอนเงิน 9 แสนบาท เล่าว่าที่ร้องเรียนเข้ามาผ่านทางเพจถกไม่เถียง เพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก เพราะต้องเสียเงินไปให้ผู้หญิงคนนึงกว่า 9 แสนบาท โดยจุดเริ่มต้น คือมีผู้หญิงคนนึงโพสต์เฟซบุ๊ค บอกว่าเดือดร้อนเรื่องค่าไฟ จำนวน 24,000 บาท เราก็เลยทักไปเสนอตัวไปช่วยเหลือ ด้วยความสงสาร รู้จักครั้งแรกวันที่ 19 ก.พ. เราก็โอนเงินไปให้เขาวันที่ 20 ก.พ. แต่เราก็ไม่เคยได้ดูใบเสร็จว่าเขาเอาไปจ่ายค่าไฟจริงไหม

เรากับเขาคุยกันทางเฟซบุ๊คตลอด มีการคุยผ่านเสียงด้วย พูดคุยกันปกติ เขาเรียกเราว่า พ่อ เราเรียกเขาว่า แม่ ต่อมาไม่กี่วันเราก็โอนให้เขาอีก 35,000 ถัดมาไม่กี่วันก็บอกว่าป้าป่วย ต่อมาบอกพ่อแม่แขนหัก ขอให้เราช่วยอีก เราก็โอนให้เขา 20,000 เราไม่เอะใจเลย เพราะเขาก็ถ่ายรูปใส่เฝือกมาให้เราดู หลายวันต่อมาหลานเขามาเล่นเฟซ เขาบอก เอ (นามสมมติ) สาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมิจฉาชีพ แขนหักอยู่ รพ.ทำอะไรไม่ได้เลย เขาบอกต้องใช้เงินอีกประมาณ 42,000 บาท ก็โอนให้เขาอีก แล้วก็มีเรื่องที่เอารถไปจำนำ ติดหนี้บูโร ขอให้เราส่งเงินมาให้หน่อย เราก็ช่วยมาตลอด เราเคยวิดีโอคอลแบบเห็นหน้ากับเขา แต่ไม่เคยเจอหน้าแบบตัวเป็นๆเลย เราก็พยายามนัดเจอเขา เขาก็บ่ายเบี่ยง อ้างอยู่ รพ.แขนหักมาไม่ได้

เราให้เงินเขาตลอด บอกว่าป้าป่วย แม่ป่วย เราก็โอนให้เขาตลอด แต่มีอยู่ครั้งนึงที่ผมไม่ได้ให้ คือ เขาอ้างว่าพี่ชายติดคุกข้อหายาเสพติด จะขอเงิน 50,000 บาท แต่เราไม่ได้ให้ เพราะเราไม่ชอบคนยุ่งเกี่ยวกับยา เขาบล็อคผมแล้ว แต่ก็ยังโทรมาขอเงินอีก ตอนแรกผมให้ด้วยความเต็มใจแต่หลังๆไม่ใช่แล้วครับ เราก็ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน ร้อยเวรบอก ไอ้หมานเอ๊ย เอ็งโง่เหลือเกิน เงินเกือบล้านให้เขาไปง่ายจัง

นายสมาน ยอมรับว่าเคยชอบ น.ส.เอ (นามสมมติ) แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เขาพูดเองว่าเอาเงินมาจองบ้าน จะทำร้านอาหารแล้วจะชวนเราไปอยู่ด้วย เราเคยมีครอบครัว มีภรรยา เราก็เปย์เขา อยากได้อะไรเราก็ให้ ก่อนหน้านี้เราก็เคยโอนเงินให้คนอื่นเหมือนกัน เห็นใครเดือดร้อนเราก็ช่วยเหลือ แต่ไม่เคยโอนให้ใครเยอะขนาดนี้ ที่ทำให้เรารู้ว่าโดนหลอกก็ตอนที่ฝ่ายหญิงปิดเฟซ ปิดมือถือ บล็อคการติดต่อทุกช่องทาง แต่เมื่อคืนเขาติดต่อมาหาผม บอกว่ามีหลักฐานทุกอย่าง เราก็ท้าเขาว่ามีหลักฐานอะไรก็เอามาโชว์เลย ผมต้องการเงินของผมคืนมาบางส่วน ขอสัก 4-5 แสนก็ยังดี แล้วผมจะจบเรื่องนี้เลย

นายอาหรับ สิมมา และ นายก้องนภา สุวรรณสิงห์ เพื่อนสนิทของ นายสมาน สิงห์หล้า เผยว่า พวกผมก็เตือนเขาตลอด ห้ามไม่ฟัง เขาเป็นคนชอบช่วยเหลือคน ผมให้เขาเอาสมุดบัญชีมาฝากที่ผม เพราะผมรู้แล้วว่าเขาจะโอนเงินให้ ผู้หญิงคนนั้นอยู่เรื่อยๆ พอต่อมาผมไม่อยู่บ้าน แต่เขาอยากจะเอาเงินไปให้ ผู้หญิงคนนั้น เขาก็เลยไปแจ้งความกับ ตำรวจว่าสมุดบัญชีธนาคารหาย เราพยายามห้ามแล้ว แต่แกไม่ฟัง เพราะผู้หญิงให้ความหวังว่าไปจองบ้านแล้ว เดี๋ยวเราจะมาอยู่ด้วยกันนะ แกก็เลยมีความหวัง เราพยายามห้ามแล้วแต่ก็ไม่ฟัง ผมก็ได้โทรไปหาผู้หญิงคนนั้น ว่ามีเพื่อนเป็นตำรวจ มีเพื่อนเป็นดีเอสไอนะ ผมไม่ได้ขู่ พอเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็รีบโทรมาเลย ขอประนีประนอมกัน สัญญาว่าจะส่งเงินคืนให้เดือนละ 3,000 บาท แต่เขาเคยโอนกลับมาแค่ 2,000 บาท แล้วก็ไม่เคยโอนอีกเลย

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ระบุ จะโดนหลอกหรือไม่ได้โดนหลอกไม่ได้อยู่ที่ความรู้สึก มันอยู่ที่การกระทำ พฤติกรรมของทั้ง 2 ฝ่าย เราต้องให้ความยุติธธรรมกับเขาด้วย มันเคยมีกรณีแบบที่ฝ่ายชายเปย์เยอะมาก แต่ไม่ได้ดังใจ ทีนี้ก็จะมาเรียกร้องขอเงินคืน การให้โดยเสน่หา เช่น เขาขอโดยไม่มีเหตุแอบแฝง ไม่ได้โกหกว่ารถจะถูกยึด ไม่ได้ไปซื้อรถบอกว่าจะไปซื้อรถมันเป็นอุบายทำให้หลงเชื่อ มันเรียกว่าโกหกหรือปิดบังความจริง ไม่มีหลักฐานทำให้เราเชื่อเราเลยโอนเงินไปให้ ถ้าโกหกว่าป่วยบ้าง จะเอาเงินไปซื้อรถซื้อบ้านบ้าง

อันนี้เข้าข่ายหลอกลวง ปิดบังความจริง ทำให้เราหลงเชื่อ โอนเงินไปให้ กรณีนี้ก็เข้าข่ายฉ้อโกง พี่โอนเงินให้เขา เพราะเชื่อว่าเขาแขนหักจริงๆ ไหม หรือแค่อยากให้เขาเอาเงินไปใช้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเขาแขนหักจริง ก็เป็นการให้เงินเขาโดยเสน่หา แต่ถ้าเขาไม่ได้แขนหัก ก็เป็นการให้โดยหลอกลวง การให้ด้วยความเสน่หาคือการให้ที่ไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน คือการให้โดยไม่ได้มีการซื้อของหรือแลกเปลี่ยนสินค้า แต่ต้องไม่ใช่เกิดจากการหลอกลวง กรณีนี้เขาบอกว่าเดือดร้อน ทั้งค่าไฟ ดาวน์บ้าน ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก็เข้าข่ายเสน่หา แต่ถ้าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง ก็เข้าข่ายฉ้อโกง หลอกลวง คำพูดการบอกรักกัน การเรียกแทนตัวเองกันว่าพ่อ-แม่ มันเป็นแค่คำพูดที่เป็นส่วนหนึ่งของกลอุบายหลอกให้เราโอนเงิน

ถ้าฝ่ายหญิงพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริง แล้วทางนายสมานเชื่อเขาจึงโอนให้เขา นั่นหมายความว่าเป็นการให้โดยเสน่หา ไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ ถ้าสมมติว่าเป็นเรื่องการฉ้อโกงตามที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา มันเป็นคดีที่ยอมความกันได้ ถ้าคู่กรณีพอใจในจำนวนเงินที่ตกลงกัน ก็ยอมความกันได้ ผมแนะนำให้รีบแจ้งความเอาไว้ก่อน เพราะถ้าเหตุการณ์ผ่านไปเกิน 3 เดือน ไม่สามารถแจ้งคดีฉ้อโกงได้ คดีฉ้อโกงนับเป็นต่างกรรมต่างวาระ หลอก 1 ครั้งก็ 1 กรรม โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี สูงสุดไม่เกิน 20 ปี

ขอบคุณ (ชมคลิป)

ถกไม่เถียง TERO DIGITAL

เสีย 9แสนแขนไม่ได้จับ! หนุ่มใหญ่อ้างเสียรู้ มารยาสาวโซเชียล ตุ๋นขายบ้าน-รถโอนยับ 30ครั้ง #ถกไม่เถียง

 
ถมนคร เครื่องถมเมืองนคร