ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา แจงสถานการณ์โควิด เริ่มเห็นทางสว่าง กราฟการติดเชื้อแม้อยู่ในจุดสูง แต่ก็เริ่มชะลอ และอาจหักหัวลงได้ หากไม่มีคลัสเตอร์ใหญ่ กลางเดือน ก.ย. ผู้ป่วยติดเชื้อน่าจะค่อยๆ ลดลง
ทั้งนี้เนื่องจากตัวเลขการฉีดวัคซีนที่เพิ่มจำนวนมาก และสูตรสลับไขว้เพิ่มภูมิได้ดี และอาจนำมาตรการ Health Pass ในยุโรป มาใช้เพื่อผ่อนคลายบางมาตรการ เช่น การรับประทานอาหารในร้านได้
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงแนวโน้มโควิด-19 ในไทยและแนวทางผ่อนคลายมาตรการ ว่า สถานการณ์โควิด-19 ของไทยในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขตอนนี้อาจดูเหมือนยังไม่ลดลง
เพราะผู้ติดเชื้อใหม่ยังแกว่งอยู่ที่ 1.9 – 2 หมื่นคนต่อวัน อัตราการเสียชีวิต 200 คนต่อวัน แต่หากมองในลักษณะกราฟการติดเชื้อ คาดว่า ขณะนี้ ความชันสูงสุดเริ่มชะลอลง เชื่อว่าอีกสักระยะหนึ่งกราฟจะเริ่มกดหัวลง ทั้งนี้ 3 ปัจจัย ที่ทำให้กราฟเริ่มลดลง มาจาก 1.การฉีดวัคซีน ที่เริ่มใกล้ประมาณ 28 % และหากทำได้ตามเป้าหมายฉีดให้ได้ 15 ล้านโดสต่อเดือน ก็จะทำให้สถานการณ์ยิ่งดีขึ้น
อีกทั้งการฉีดวัคซีนแบบสูตรไขว้สลับชนิด ซิโนแวค เข็ม 1 กับแอสตราฯ เข็ม 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งระดับ B Cell และ T Cell ได้สูง 2.มาตรการสังคม การปกครอง และ 3.มาตรการบุคคล ก็เป็นส่วนสำคัญในการลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อ เชื่อว่าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า หรือ ภายในกลางเดือนกันยายน ถ้าไม่มีการระบาดของคลัสเตอร์ใหญ่
ศ.นพ. ประสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้หากสถานการณ์ดีขึ้น การผ่อนคลายมาตรการบางอย่างเพื่อช่วยเหลือภาวะเศรษฐกิจก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทำได้ทั้งหมด กลับมาใช้ชีวิตปกติ ต้องเลือกผ่อนบางมาตรการ หรือ กิจกรรมบางจุดเท่านั้น เช่น ยุโรป ใช้ Health Pass ในมือถือ มาเป็นเงื่อนไขอนุญาตให้เข้าสถานประกอบการได้ (การรับประทานอาหารแบบนั่งร้าน)
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีการละเมิดก็จะถูกปรับด้วยโทษหนัก คือ 1.ได้รับวัคซีนครบโดส 2.ผลการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ หรือ 3.แสดงหลักฐานว่าเพิ่งหายจากการติดเชื้อ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าคนที่เข้าไปใช้บริการจะไม่แพร่กระจายเชื้อสู่คนอื่นๆ .-สำนักข่าวไทย