19 ก.ค. 64 – เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการระบาดสายพันธุ์โควิด-19 ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) แซงสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) เป็นที่เรียบร้อย ส่วนสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ยังอยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าดูแนวโน้มภาพรวมของประเทศที่เราตรวจกว่า 3 พันตัวอย่าง เป็นสายพันธุ์เดลต้าเกือบ 63% และสายพันธุ์อัลฟ่า 34%
อย่างไรก็ตามสายพันธุ์เดลตาในวันนี้พบ 71 จังหวัด โดยเพิ่มขึ้นมา 11 จังหวัด ซึ่งมีหลายจังหวัดเดิมที่เป็นศูนย์อยู่กลับเพิ่มขึ้น เช่นแม่ฮ่องสอน 3 ราย กาญจนบุรี 1 ราย สมุทรสงคราม 4 ราย ฉะเชิงเทรา 20 ราย ตราด 2 ราย สุรินทร์ 28 ราย ชุมพร 1 ราย นครศรีธรรมราช 2 ราย กระบี่ 2 ราย พังงา 1 ราย และปัตตานี 2 ราย จึงเป็นเหตุว่าทำไมผู้ติดเชื้อจึงเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เพราะสายพันธุ์นี้มีคุณสมบัติในการแพร่เชื้อที่ง่าย
สำหรับสายพันธุ์เบตา ยังอยู่ที่บริเวณชายแดนใต้เป็นส่วนใหญ่ สัปดาห์ที่ผ่านมาพบเพิ่มในนราธิวาส 90 กว่าราย ส่วนจังหวัดใกล้เคียงเช่น ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง พบเพิ่มขึ้นเช่นกัน และขึ้นไปจ.ชุมพร ซึ่งเป็นรายใหม่ ส่วนที่บึงกาฬ สัปดาห์ที่แล้วพบ 1 ราย เป็นคนงานที่กลับมาจากไต้หวัน โดยพบผู้สัมผัสใกล้ชิด 3 ราย ส่วนกรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ติดเชื้อติดจากญาติที่มาเยี่ยมจากนราธิวาส สัปดาห์นี้ยังไม่เจอ ถ้าสัปดาห์หน้ากรุงเทพมหานครยังเป็นศูนย์อยู่ สายพันธุ์เบตาก็อาจจะจบได้
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ถ้าการติดเชื้อมีจำนวนสูงมาก โอกาสที่จะมีการกลายพันธุ์ก็จะสูงตามไปด้วย เมื่อไวรัสเพิ่มจำนวนในเซลล์ของมนุษย์ ก็อาจจะมีความผิดเพี้ยนเกิดขึ้นกลายเป็นพันธุ์ใหม่ขึ้นได้ เพราะฉะนั้นถ้าเรายังปล่อยให้มีการติดเชื้อมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีการกลายพันธุ์ก็สูงเท่านั้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบ 7 ราย ที่เราพบการติดเชื้อแบบผสมพบ 2 สายพันธุ์ทั้งอัลฟา และเดลตาในคนเพียงคนเดียว แต่มันยังไม่กลายเป็นพันธุ์ใหม่ แต่ถ้าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้มากๆ เดียวมันก็จะพบกัน และอาจจะเป็นพันธุ์ใหม่ขึ้นมาได้
“การกลายพันธุ์บางอย่างเกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกใบนี้ ก็ไม่ค่อยมีปัญหา กลายพันธุ์แล้วไม่มีอิทธิฤทธิ์มากขึ้นก็แล้วไป แต่ถ้ากลายพันธุ์แล้วมีขีดความสามารถมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อบ่อยขึ้น เร็วขึ้น การทำอันตรายมากขึ้น หรือดื้อวัคซีนมากขึ้น อันนี้ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็จะจัดเป็นสายพันธุ์กลายเป็นที่น่ากังวล ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับเครือข่ายทั้งหลายได้ทำการเฝ้าระวังเรื่องการกลายพันธุ์อยู่ ถ้าทุกคนช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคให้ได้เร็ว โอกาสกลายพันธุ์ก็จะต่ำลง” นพ.ศุภกิจ ระบุ.