เขตตลิ่งชัน กทม. – ฆ่าโหดผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ซุกศพใต้พื้นคฤหาสน์หรูของนักธุรกิจโรงแรมหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. ญาติแจ้งความคนหาย ตามหาถึงคฤหาสน์ที่รับงานต่อเติมถึง 2 ครั้ง กว่าจะ พบถูกฆ่าทุบหัวยัดศพไว้ใต้พื้นโบกปูนทับอำพราง คดี ตรวจสอบวงจรปิดพบคนงานก่อสร้าง 4 คนหนีหายไป ล่าตัวมาได้แล้ว 3 คน แต่ยังปิดปากเงียบ ส่งทีมล่าอีก 1 ชาวเขา ถึง จ.เชียงราย
เหตุทุบหัวฆ่าผู้รับเหมาหมกคฤหาสน์รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ร.ต.ท.ปรวุฒิ ส้มแป้นหวาน รอง สว. (สอบสวน) สน.บางเสาธง รับแจ้งพบศพถูกฆาตกรรมฝังไว้ใต้พื้นบ้านภายในคฤหาสน์หรูเลขที่ 5 ซอยบางเชือกหนัง 7 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กทม. รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง พ.ต.ท.สวัสดิ์ ภักดี รอง ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.ธนวรรธณ์ เพิ่มพูล สว.สส.สน.บางเสาธง ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 ฝ่ายสืบสวน สน.บางเสาธง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หรูพื้นที่ประมาณ 4 ไร่รั้วรอบขอบชิด แบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นบ้านคฤหาสน์หรู ส่วนที่เกิดเหตุอยู่โซนกำลังก่อสร้างอาคาร 2 ชั้นทำเป็นบาร์กาแฟขนาดใหญ่ ใต้พื้นบ้านอาคารด้านในสุดพบศพนายสิทธิโชค หรือช่างสน สาโรจน์ อายุ 42 ปี อยู่เลขที่ 267/1 หมู่ 3 ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ร่างถูกยัดเข้าไปใต้พื้นบ้านที่ทรุดสูงประมาณ 30 ซม. สวมผ้าขาวม้าผืนเดียว ศพถูกห่อด้วยผ้าม่านสีครีม มีแผ่นคอนกรีตสำเร็จโบกปูนทับอีกชั้น
และมีที่นอนวางพิงกำแพงอำพรางรอยโบกปูนไว้อีกชั้น อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องช่วยกันขุดดินเอาแผ่นพลาสติกสอดเข้าไปใต้ศพแล้วลากออกมาอย่างทุลักทุเล ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลจากการถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์กะโหลกศีรษะเปิด หน้าแข้งซ้ายมีแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-9 วัน
สอบสวนนายสุวิทย์ สาโรจน์ อายุ 40 ปี น้องชายผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นคน จ.กระบี่ อาชีพรับเหมาต่อเติมบ้าน แต่ไปได้ภรรยาอยู่ จ.กาญจนบุรี จึงโอนทะเบียนบ้านไปอยู่ที่นั่น ปกติพี่ชายจะโทรศัพท์กลับไปหาญาติที่ จ.กระบี่ ทุกวัน แต่ช่วงนี้เงียบหายไปหลายวันแล้ว ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. รู้ว่าพี่ชายมารับงานอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงปรึกษากันและเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.บางเสาธง เมื่อวันที่ 15 ก.ค. หลังจากนั้นพากันเข้าตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางเสาธง ไม่พบอะไร แต่ได้กลิ่นเน่าโชยมาเป็นระยะแต่หาไม่เจอจึงเดินทางกลับ
“ต่อมาเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.) ญาติไปหาหมอดูที่นับถือใน จ.กาญจนบุรี หมอดูบอกว่า ศพอยู่ในบ้านหลังที่เกิดเหตุถูกฝังดินไว้ใกล้กับต้นกล้วยริมกำแพง ให้จุดธูป 9 ดอก เพราะเจ้าที่แรงมาก แล้วจะเจอศพ ช่วงสายผมชวนตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจสอบที่บ้านอีกครั้ง ลองจุดธูปริมกำแพงใกล้ต้นกล้วยตามที่หมอดูบอก
ปรากฏว่าหลังธูปหมดดอกกลิ่นเน่าโชยออกมาอย่างแรง เห็นแมลงวันบินมาเกาะตรงที่ถูกโบกปูนทับศพไว้ ตำรวจจึงใช้ค้อนทุบปูนออกจึงพบศพ รู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่รู้ว่าพี่ชายมีเรื่องกับใคร ในบ้านไม่มีคนงานเหลืออยู่แล้ว” นายสุวิทย์กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ธนวรรธณ์ เพิ่มพูล กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุคาดว่าเป็นวันที่ 8 ก.ค.ช่วงกลางคืน เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้านจับภาพเวลา 22.16 น. คนงาน 2 คน คือนายรุ่ง กับนายพงษ์ เดินไปชวนผู้ตายออกมานั่งดื่มเหล้า ทั้งๆที่ผู้ตายเข้าห้องนอนแล้ว แต่จุดที่นั่งดื่มเหล้าไม่มีกล้องวงจรปิด ขณะเกิดเหตุมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ 4 คน มีนายโย นายวัฒน์ นายรุ่ง และนายจะหวะ ลาหู่เมอเนอ หรือฉายาพงษ์เทิดไท ช่วงวันที่ 9 ก.ค. เบิกเงินกับผู้รับเหมาอีกคนไป 5 พันบาทเดินทางกลับ จ.เชียงรายไปแล้ว ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวมาได้แล้ว 3 คน สอบสวนแล้วยังไม่มีใครรับสารภาพ ต้องรีบติดตามตัวนายจะหวะมาสอบสวนให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คฤหาสน์หลังดังกล่าวเป็นของนายสุพจน์ ตั้งวิฑูรธรรม ประธานบริษัทคัลเลอร์คิง จำกัด เจ้าของดอยห่มฟ้า รีสอร์ต จ.เชียงราย และนักธุรกิจใหญ่เจ้าของบ่อพลอยหลายแห่ง รวมทั้งเป็นเจ้าของโรงแรมย่านสีลม และเจ้าของไร่กาแฟที่ จ.เชียงใหม่