คลิปลูกพาแม่มาขอทานกลางฝน ที่แท้ “ยายลูกชิ้น” เคยรับบริจาคได้เงินไปครึ่งล้าน หลังถลุงเงินบริจาคหมด

คลิปลูกพาแม่มาขอทานกลางฝน ที่แท้ “ยายลูกชิ้น” เคยรับบริจาคได้เงินไปครึ่งล้าน หลังถลุงเงินบริจาคหมด

ถึงกับส่ายหน้า คลิปลูกพาแม่มาขอทานกลางฝน ที่แท้ “ยายลูกชิ้น” เคยรับบริจาคได้เงินไปครึ่งล้าน หลังถลุงเงินบริจาคหมด แถมนั่งหุงข้าวกลางแดด นอภ.ลงพื้นที่จัดการ ลูกบุญธรรมอ้างไม่รู้ไปขอทาน

จากกรณีเพจ “เจ๊ม้อยv plus” โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่มีชายขี่รถจยย.นำหญิงชรามาปล่อยลงริมถนน เพื่อให้ไปนั่งขอเงินหน้าตลาดนัดทั้งๆ ที่ฝนตก โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าตลาดนัดแห่งหนึ่ง ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จนกลายเป็นกระแสในโซเซียล

ล่าสุดวันที่ 1 ก.ค.64 นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอไทรน้อย จ.นนบุรี นายสรศักดิ์ พิมพ์ดี กำนันตำบลหนองเพรางาย น.ส.มสารัตน์ กีรติโพธวงศ์ นักพัฒนาสังคม ศูนย์คุ่มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายจำนงค์ คำภิรานนท์ อส.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาย ลงพื้นที่ตรวจสอบตามภาพคลิปเหตุการณ์ที่ปรากฏ จึงพบว่าหญิงชราที่ปรากฎในคลิปคือ น.ส.ลูกชิ้น หรือยายลูกไก่ อายุ 79 ปี ส่วนชายคนขี่รถจยย.มาส่งคือ นายคมสันติ อายุ 49 ปี ลูกบุญธรรมของ น.ส.ลูกชิ้น

โดยในวันดังกล่าว นายคมสันติ ได้ขี่รถจยย.พา น.ส.ลูกชิ้น มาส่งลงหน้าตลาดนัดเพื่อเดินเรี่ยไรเงินแม้จะมีฝนตกลงมา จนคนที่เห็นเหตุการณ์เข้าใจผิดคิดว่า นายคมสันติ บังคับ น.ส.ลูกชิ้น ให้มาเดินเรี่ยไรของเงิน จึงถ่ายคลิปไว้ โดยไม่รู้ความจริงมาก่อนว่า สองแม่ลูกคู่นี้เคยตกเป็นข่าวในลักษณะนี้มาก่อน โดยเมื่อปี 61 เกิดกระแสดราม่ามีคนถ่ายรูปยายลูกชิ้น ขณะที่กำลังเดินเข็นรถที่มีลูกสุนัขหลายตัวเพื่อตระเวนเก็บของเก่าไปขาย จนกลายเป็นกระแสความสงสารได้เงินบริจาคไปร่วม 4 แสนบาท แล้วก็หมดลงไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นตอนมาในปี 63 เกิดกระแสดราม่าขึ้นมาอีก เมื่อยายลูกชิ้นไปสร้างกระต็อบอยู่กับลูกชายบุญธรรมในที่รกร้าง แล้วมีคนไปเห็นถ่ายลงโซเซียลจนได้รับเงินบริจาคไปอีกประมาณ 2 แสน ซึ่งในครั้งนั้น ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่อำเภอไทรน้อย และ อบต.หนองเพรางาย ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ ซึ่งยายลูกชิ้น และ นายคมสันติ ได้ทำหนังสือสัญญารับปากกับทาง พม.เอาไว้ว่า จะไม่ทำพฤติกรรมเดินเรี่ยไรเงินอีกต่อไป เนื่องจากได้รับเงินบริจาคและสิ่งของช่วยเหลือไปเป็นจำนวนมากแล้ว จนกระทั่งเหมือนทั้งสองคนใช้เงินที่ได้รับมาจนหมด ก็หันกลับมาใช้พฤติกรรมเดิมๆ ด้วยการไปนั่งรอตามตลาดนัดหรือหน้าร้านสะดวกซื้อที่มีผู้คนผ่านไปมาจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความสงสารจากผู้คนที่หยิบยื่นเงินและของกินของใช้

ด้าน นายธีระ โรจนประดิษฐ์ ปลัดอำเภอไทรน้อย ได้ประสาน พม.จ.นนทบุรี และหน่วยงานในพื้นที่ จนสืบทราบว่า น.ส.ลูกชิ้น และ นายคมสันติ ได้ย้ายออกจากบ้านเช่าออกมาเร่รอนสร้างเพิ่งพักอยู่ริมถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะที่ปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่ พม.ลงพื้นที่ติดตามตัวอยู่นั้น ก็พบว่า น.ส.ลูกชิ้น กำลังนั่งหุงข้าวด้วยฟืนกลางแดดเปรี้ยงๆ เป็นที่น่าเวทนากับผู้พบเห็นที่ผ่านไปมา เมื่อลองสอบถาม ยายลูกชิ้น ก็ได้รับคำตอบว่า หุงข้าวเปล่าไว้กินกับน้ำปลา เพราะยากจน

เมื่อสอบถามว่าได้นั่งขอเงินที่ตลาดนัดกับหน้าร้านสะดวกซื้อหรือไม่ ยายลูกชิ้นตอบว่า ไปนั่งรอลูกชายเฉยๆ แต่มีคนเอาเงินมาให้เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ส่วน นายคมสันติ ลูกบุญธรรม กล่าวว่า เหตุการณ์ในคลิปตนแค่ขี่รถพาแม่ออกไปซื้อของแต่ฝนมันตก ก็เลยจอดให้แม่ไปหาที่หลบฝน แล้วตนก็ขี่รถไปซื้อของ ไม่รู้ว่าแม่ไปนั่งขอเงินตอนไหน ทุกวันนี้ตนก็ตระเวนเก็บของเก่าบ้าง รับจ้างบ้าง มีเงินจากรัฐที่ให้อีกเดือนละ 300 บาท ก็อดทนอยู่กันไป ซึ่งหากทางหน่วยงานรัฐมองว่าตนสองแม่ลูกทำผิดกฏหมายในพื้นที่ ตนกับแม่ก็พร้อมที่จะย้ายกลับไปอยู่ กทม.ตามเดิม

จากนั้น นายธีระ พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.หนองเพรางาย ประสานเจ้าหน้าที่ รพ.สต.หนองเพรางาย เพื่อให้เข้าตรวจร่างกายสองแม่ลูกคู่นี้ เพื่อตรวจหา 5 โรคติดต่อร้ายแรงและเชื้อไวรัสโควิด โดยหลังจากนี้เมื่อทาง รพ.สต. ตรวจหาเชื้อเรียบร้อยแล้ว ทางอำเภอจะนำตัวสองแม่ลูกนี้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ พม.นนทบุรี เพื่อส่งศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี ให้ดูแลต่อไป ไม่ให้กระทำความผิดตาม พรบ.ควบคุมการขอทานหรือเรี่ยไรอีก

บทความต้นฉบับ